ไทยพลัสนิวส์ พาไปรู้จักกับเครื่องดื่ม ไวน์
ไทยพลัสนิวส์ ขอเสนอข้อมูล ไวน์ (อังกฤษ: wine) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำมาจากการหมักด้วยองุ่น ยีสต์จะกินน้ำตาลในองุ่นและแปรเปลี่ยนเป็นเอทานอล คาร์บอนไดออกไซค์ และความร้อน องุ่นสายพันธุ์ต่าง ๆ และยีสต์หลายสายพันธุ์เป็นปัจจัยหลักในไวน์หลากสไตล์ ความแตกต่างเหล่านี้เป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างการพัฒนาทางชีวเคมีขององุ่น ปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการหมัก สภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกองุ่น(terrior) และกระบวนการผลิตไวน์ หลายประเทศออกกฏหมายในการตั้งชื่อเพื่อกำหนดรูปแบบและคุณภาพของไวน์ โดยทั่วไปสิ่งเหล่านี้จะจำกัดแหล่งกำเนิดทางภูมิศาสตร์และสายพันธุ์องุ่นที่ได้รับอนุญาต เช่นเดี่ยวกับแง่มุมอื่น ๆ ของการผลิตไวน์ ไวน์ที่ไม่ได้ทำมาจากองุ่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหมักพืชผลเพิ่มเติม รวมทั้งไวน์ข้าว และไวน์ผลไม้อื่น ๆ เช่น พลัม เชอร์รี่ ทับทิม ลูกเกด และเอลเดอร์เบอร์รี่
ข้อมูลทั่วไป
ไวน์มีการผลิตมานานนับพันปี หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของไวน์มาจากจีนยุคโบราณ (ค.ศ. 7000 ปีก่อนคริตกาล) จอร์เจีย(ค.ศ. 6,000 ปีก่อนคริตกาล) เปอร์เซีย(ค.ศ. 5,000 ปีก่อนคริตกาล) และอิตาลี(ค.ศ. 4,000 ปีก่อนคริตกาล) ไวน์โลกใหม่มีความเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำขึ้นโดยชนพื้นเมืองของอเมริกา แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ไวกิงในเวลาต่อมาของวินแลนด์และขนบประเพณีของเสปนในนิวสเปน.ต่อมาในขณะที่ไวน์โลกเก่าได้พัฒนาเทคนิดการปลูกองุ่นมากขึ้น ยุโรปจะคลอบคลุมพื้นที่ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดถึงสามแห่ง ปัจจุบัน ห้าประเทศที่มีพื้นที่ผลิตไวน์มากที่สุดคือ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และจีน
ไวน์มีบทบาทที่สำคัญในศาสนามาช้านาน ไวน์แดงมีความเกี่ยวข้องกับเลือดของชาวอียิปต์ยุคโบราณ และถูกนำมาใช้ในการบูชาเทพเจ้าองค์หนึ่งนามว่า ไดอะไนซัส ของชาวกรีก ส่วนโรมัน จะถูกนำมาใช้ในงานฉลองที่มีชื่อว่า แบคัสนาเลีย ศาสนายูดาห์ยังถูกรวมอยู่ในพิธีคีดูช และศาสนาคริสต์ในพิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ วัฒนธรรมไวน์ของอียิตป์ กรีก โรมัน และอิสราเอลนั้นยังคงเชื่อมโยงถึงรากเหง้ายุคโบราณเหล่านี้ ในทำนองเดียวกัน แหล่งผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี สเปน และฝรั่งเศสก็มีมรดกตกทอดที่เกี่ยวข้องกับไวน์ศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกันกับประเพณีการปลูกองุ่นทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริดกาเริ่มต้นขึ้นภายในนิวสเปน เนื่องจากบาทหลวงและคณะสงฆ์คาทอลิกได้ผลิตไวน์ขึ้นเป็นครั้งแรกในนิวแม็กซิโกและแคลิฟอร์เนีย.
ประวัติของ ไวน์
เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีมาหลายพันปีแล้ว มีการค้นพบโถโบราณบรรจุเมล็ดองุ่นไร่ซึ่งมีอายุนับเนื่องขึ้นไปกว่า 8,000 ปี ก่อนคริสตกาล
นอกจากที่ประเทศอิหร่านแล้ว ยังมีการพบร่องรอยของเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ได้จากกรรมวิธีการหมักแบบเดียวกับไวน์ในสมัย 7,000 ปีก่อนคริสตกาล ทางตอนเหนือของประเทศจีน
ในยุคอียิปต์โบราณ การเพาะปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบระเบียบมาก เทพต่าง ๆ ในตำนานเทพปกรณัม ทั้งโอซิริสของอียิปต์ เทพไดโอนีซุสของกรีก บัคคัสของโรมัน หรือกิลกาเมชของบาบิโลน ล้วนแล้วแต่เป็นเทพแห่งไวน์ นอกจากนั้น ไวน์ยังเป็นสัญลักษณ์ของพระโลหิตของพระเยซูเจ้าตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์ ไวน์มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นอันมากในช่วงสองร้อยปีหลัง ชาวโรมันในสมัยก่อนนั้นดื่มไวน์ที่มีรสฉุนจนต้องผสมน้ำทะเลก่อนดื่ม รสชาติของไวน์ดังกล่าวแตกต่างจากไวน์ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
ในสมัยศตวรรษที่ 19 ไวน์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลัง โดยคนงานที่รับจ้างเก็บเกี่ยวพืชผลจะดื่มไวน์ถึงวันละ 6-8 ลิตร และนายจ้างจะจ่ายไวน์ให้เป็นส่วนหนึ่งของค่าแรง เพราะสมัยนั้นน้ำยังไม่ค่อยสะอาดพอที่จะนำมาดื่มได้
ส่วนประกอบของไวน์
ส่วนประกอบส่วนใหญ่ของไวน์คือองุ่นสายพันธ์ต่าง ๆ ยีส และส่วนผสมทางเคมีอื่น ๆ ปกติแล้ว ปริมาณของแอลกอฮอล์จะอยู่ระหว่าง 9-15 เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาณน้ำ 85 เปอร์เซ็นต์
แอลกอฮอล์ในไวน์ส่วนใหญ่เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ และยังพบตัวทำละลายประเภทกลีเซอรอล ซอร์บิทอล และบูตีแลนกลีคอล
นอกจากนั้น ไวน์ยังประกอบด้วย
- น้ำตาลชนิดต่าง ๆ ทั้งกลูโคส ฟรุคโตส ในปริมาณที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 1-2 กรัมต่อลิตร ในดรายไวน์ที่หมักจนน้ำตาลกลายเป็นแอลกอฮอล์แล้ว จนถึง 50-60 กรัมต่อลิตร ในไวน์หวานที่กระบวนการหมักบ่มยังไม่สมบูรณ์
- กรดต่าง ๆ ทั้งกรดมาลิก กรดซิตตริก กรดทาทาริก กรดน้ำส้ม กรดแลกติก กรดซัคซินิก
- ส่วนผสมอื่น ๆ เช่น แทนนิน แอนโทซีอัน
- รงควัตถุ (pigment) ต่าง ๆ เช่น แอนโทไซยานิน
การแบ่งประเภทไวน์
ในหลาย ๆ ประเทศจะแบ่งประเภทไวน์ตามพันธุ์ขององุ่นที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบ และในประเทศฝรั่งเศสมีการแบ่งประเภทไวน์ตามพื้นที่แหล่งผลิตหรือกรู (ฝรั่งเศส: cru) ผู้ผลิต และปีที่ผลิต
พันธุ์องุ่น (ฝรั่งเศส: Cépage; อังกฤษ: Cultivar)
พันธุ์องุ่นดำที่มีชื่อเสียงในการทำไวน์แดงหรือไวน์ชมพู ได้แก่
- พันธุ์องุ่นหลักของเมืองบอร์โด (Bordeaux)
- กาแบร์เน-โซวีญง (cabernet-sauvignon)
- กาแบร์เน-ฟรอง (cabernet franc)
- แมร์โลนัวร์ (merlot noir)
- เปอตีแวร์โด (petit verdot)
- โกตหรือมูร์แวด (cot or mourvede)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นชองปาญ (Champagne)
- ปีโนนัวร์ (pinot noir)
- [ขาว] ปีโนเมอนีเย (pinot meunier)
- [ขาว] ชาร์ดอเน (chardonnay)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นบูร์กอญ (Bourgogne) [โบโชเล Beaujolais]
- กาเมนัวร์ (gamay noir) หรือกาเมโฟรโอ (gamay freaux)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นลองเกอด็อก-รูซียง (Languedoc Rousillon) [เวเดแอน: แวงดูนาตูแรล VDN: Vin Doux Naturel]
- ซีรา (syrah)
- เกรอนาช (grenache)
- พันธุ์องุ่นหลักของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California)
- ซินฟันเดล (zinfandel) นำมาจากประเทศอิตาลี
พันธุ์ขาว องุ่นที่นิยมนำมาทำไวน์ขาวได้แก่
- พันธุ์องุ่นหลักของเมืองบอร์โด (Bordeaux) [โซแตร์น, อ็องตร์-เดอ-แมร์, ลูปียัก Sauterne, Entre-deux-mer, Loupiac]
- โซวีญงบล็อง (sauvignon blanc)
- เซมียง (sémillon)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นบูร์กอญ (Bourgogne) [ชาบลี, มาร์โซล Chablis, Marsault]
- ชาร์ดอเน (chardonnay)
- อาลีโกเต (aligoté)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ (Pays de la Loire) [วูเวร Vouvray]
- เชอแนงบล็อง (chenin blanc)
- พันธุ์องุ่นหลักของแคว้นอัลซาซ (Alsace)
- เกเวือร์ซทรามีเนอร์ (gewürztraminer)
- ปีโนกรี (pinot gris)
- รีเอสลิง (riesling)
- มุสกา (muscat)
- ซีลวาเน (sylvaner)
- อามีญ (amigne) (ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
- ซาวาแญง (savagnin)
ชนิดของไวน์
ไวน์แดง (อังกฤษ: red wine)
ตัวอย่างไวน์แดงที่ได้รับความนิยม
- บาโรโล (Barolo) – อิตาลี
- บรูเนลโลดีมอนตัลชีโน (Brunello di Montalcino) – อิตาลี
- โบโชเล (Beaujolais) – ฝรั่งเศส
- บอร์โด (Bordeaux) – ฝรั่งเศส
- บูร์กอญ (Bourgogne) หรือบูร์กันดี (Burgundy) – ฝรั่งเศส
- กาแบร์เนโซวีญง (Cabernet Sauvignon) – ฝรั่งเศส แคลิฟอร์เนีย ออสเตรเลีย มอลโดวา แอฟริกาใต้
- การ์เมเนเร (Carmenere) – ชิลี
- กีอันตี (Chianti) – อิตาลี
- แมร์โล (Merlot) – ฝรั่งเศส แคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน ชิลี แอฟริกาใต้
- ปีโนนัวร์ (Pinot Noir) – ฝรั่งเศส แคลิฟอร์เนีย ออริกอน แอฟริกาใต้
- พิโนเทจ (Pinotage) – แอฟริกาใต้
- เรียวคา (Rioja) – สเปน
- ซีรา/ชีรัซ (Syrah/Shiraz) – ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แคลิฟอร์เนีย แอฟริกาใต้
- วัลโปลีเชลลา (Valpolicella) – อิตาลี
- ซินฟันเดล (Zinfandel) – แคลิฟอร์เนีย
- ไวน์ขาว (White wine)
ผลิตจากองุ่นขาวหรือองุ่นแดงแต่เอาเฉพาะน้ำองุ่น แบ่งออกเป็นหลายชนิด
- ไวน์ขาวอ่อน (Vin Blanc Tranquille or Doux)
- ไวน์ขาวแห้ง (Vin Blanc Sec or Demi-sec)
- ไวน์ขาวหวาน (VDN, Porto, Xeres)
- ไวน์ขาวอัดก๊าซ (Champagne, Vouvrey)
- ลิเกอร์จากองุ่นขาว (Cognac, Armagnac, Pineau)
ตัวอย่างไวน์ขาวที่ได้รับความนิยม
- ชาร์ดอเน (Chardonnay) – ฝรั่งเศส แคลิฟอร์เนีย ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้
- ชาบลี (Chablis) – ฝรั่งเศส
- เชอแนงบล็อง (Chenin Blanc) – แอฟริกาใต้ ฝรั่งเศส
- ฟรัสกาตี (Frascati) – อิตาลี
- เกเวือร์ซทรามีเนอร์ (Gewürztraminer) – ฝรั่งเศส เยอรมนี แอฟริกาใต้
- ลีบเฟรามิลค์ (Liebfraumilch) – เยอรมนี
- ออร์วีเอโต (Orvieto) – อิตาลี
- ปีโนกรี/ปีนอตกรีโจ (Pinot Gris/Pinot Grigio) – ฝรั่งเศส อิตาลี ออริกอน
- ปุยยี-ฟุยเซ (Pouilly-Fuissé) – ฝรั่งเศส
- รีสลิง (Riesling) – ฝรั่งเศส เยอรมนี
- โซวีญงบล็อง (Sauvignon Blanc) – ฝรั่งเศส แคลิฟอร์เนีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้
- เซมียง (Sémillon) – แอฟริกาใต้
- โซอาเว (Soave) – อิตาลี
- แวร์ดิกกีโอเดย์กัสเตลลีดีเจซี (Verdicchio dei castelli di Jesi) – อิตาลี
- สปาร์กลิงไวน์ (Sparkling wine) เป็นไวน์ชนิดมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อัดอยู่
ตัวอย่างสปาร์กลิงไวน์ที่ได้รับความนิยม
- อัสตีสปูมันเต (Asti spumante) – อิตาลี
- กาบา (Cava) – สเปน
- แชมเปญ/ชองปาญ (Champagne) – ฝรั่งเศส สปาร์กลิงไวน์ที่ผลิตขึ้นที่แคว้นนี้เท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า แชมเปญ
- ฟรันชากอร์ตา (Franciacorta) – อิตาลี
- โปรเซกโก (Prosecco) – อิตาลี
- เซคท์ (Sekt) – เยอรมัน
- สปาร์กลิงไวน์ (Sparkling wine) – แคลิฟอร์เนีย ออริกอน วอชิงตัน นิวเม็กซิโก
- ไวน์สีกุหลาบ (rosé)
- บูซุยโออาตซะเดโบโฮติน (Busuioacă de Bohotin) : โรมาเนีย
- ลาเกรนโรซาโต (Lagrein Rosato) : อิตาลี
- โรเซ (Rosé) : ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สเปน สหรัฐอเมริกา ตุรกี
อ้างอิงจาก wikipedia
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น