สวัสดีทุกคน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับประเพณี วัฒนธรรมที่มีความสำคัญของชาวอีสานกัน กับ บุญเดือนหก เป็นประเพณีที่เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับ แถน เมื่อถึงเดือนหกเริ่มต้น การทํานาชาวบ้านจะจุดบั้งไฟ เป็นการบูชาขอให้พญาแถนบันดาล ฝนให้ตกลงมา ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นกิจกรรมร่วมกันของชุมชนอีสานหลาย ๆ หมู่บ้าน หมู่บ้านเจ้าภาพจะปลูกโรงเรือน เรียกว่า ผามบุญ ไว้ต้อนรับ ชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่น และดูแลจัดหาอาหารสําหรับทุก ๆ คน เช้าของวันงานชาวบ้านจะร่วมกันทําบุญ ประกวดประชัน แห่และจุดบั้งไฟที่ตกแต่ง อย่างงดงาม บั้งไฟของหมู่บ้านใดจุด ไม่ขึ้นชาวบ้านหมู่บ้านนั้น จะถูกโยนลงโคลนเป็นการทําโทษ และจะมีการเซิ้งฟ้อนกันอย่างสนุกสนาน และจะมี การเซิ้งปลัดขิกร่วมอยู่ในขบวนด้วยเสมอ โดยมีความเชื่อว่า เป็นการไล่ผีให้พ้นออก ไปจากหมู่บ้านและเร่งให้แถนส่งฝนลงมาเร็ว ๆ
บุญเดือนหก
ความเป็นมาของการเกิด บุญเดือนหก
ตามตํานานพื้นบ้านอีสานเชื่อว่าเป็นการจุดบั้งไฟเป็นสัญญาณเตือนให้พญาแถนรู้ว่าถึงฤดูทํานาแล้วให้พญาแถนบันดาล ให้ฝนตกและมีปริมาณ เพียงพอแก่การปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารพิธีกรรม เมื่อได้ประชุมกําหนดวันจะทําบุญบั้งไฟแล้ว พวกช่างปืนไฟก็จะร่วมทําบั้งไฟ หาง บั้งไฟก่องข้าว ไว้ตามจํานวนและขนาดที่ชาวบ้านศรัทธาร่วมกันบริจาคเงินซื้อศรัทธา ซื้อ “ขี้เกีย หรือ ขี้เจี้ย” (ดินประสิว) มาทํา “หมื่อ” ปัจจุบันมักจะมีการแข่งขัน บั้งไฟ ระหว่างคุ้มบอกกล่าวไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ ให้ทําบั้งไฟมาแข่งขันกันตามขนาดที่กําหนด
อาจเป็น “บั้งไฟหมื่น” (มีน้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม) “บั้งไฟแสน” (มีน้ำหนักมากกวา 120 กิโลกรัม) ก็ได้พอถึง “มื้อโฮมบุญ” หรือวันรวม ชาวบ้านจะจัดทําบุญเลี้ยงพระเพล แล้วจะมี “พิธีฮดสง” พระภิกษุ ผู้มีศีลศึกษาธรรมวินัยมาตลอดพรรษาให้ได้เลื่อนเป็นตําแหน่งสูงขึ้น คือ “ฮด” จากพระภิกษุธรรมดาให้เป็นภิกษุขั้น “อาจารย์” แต่เรียกสั้นๆ ว่า “จารย์” ผู้มีอายุครบบวชถ้าอยากบวช พ่อแม่มักจะจัดให้บวชในเดือนนี้ไปพร้อม ๆ กับพิธีนี้ ประมาณเวลา 15.00 น. ของมื้อโฮม นํา “กองฮด” และ “กองบวช” มาตั้งไว้กลางศาลาโรงธรรมทางวัดจะตีกลองเป็นสัญญาณ
บอกให้ทุกคุ้มนําบั้งไฟมารวมกันที่วัดแต่ละคุ้มจะเอ้บั้งไฟ (ตกแต่งบั้งไฟ) ของตนให้สวยงาม เป็นการประกวดประชันกันเบื้องต้น มีการจัดขบวนการแห่บั้งไฟ และในขณะที่แห่บั้งไฟจะเซิ้งบั้งไฟไปพร้อม ๆ กันด้วย การเซิ้งบั้งไฟนี้จะมีหัวหน้า กล่าวนําคําเซิ้งเป็นวรรค ๆ ไปแล้วให้ผู้เข้าร่วมขบวนแห่ทุกคนกล่าวตาม ขณะที่กล่าว ก็รําให้เข้ากับจังหวะเซิ้งนั้นด้วยรุ่งเช้าของวันบุญบั้งไฟ ญาติโยม จะนําข่าวปลาอาหารทั้งขนมหวาน มาทําบุญตักบาตรร่วมกันที่วัด หลังจากพระฉันจังหันเสร็จแล้วก็จะนําบั้งไฟมารวมกันที่วัดแล้วนําไปจุดที่ “ค้างบั้งไฟ” (ร้านสําหรับจุดบั้งไฟ) ที่สําคัญเวลาจุดต้องหันหัว บั้งไฟไปทางทุ่งนาหรือหนองน้ำเพื่อป้องกันอันตราย
การทำพิธี
ช่วงประกอบพิธีกรรม ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน ของทุกปี (แล้วแต่พื้นที่) เมื่อถึงช่วงทำนาก็จะทำบุญบั้งไฟ จุดบั้งไฟบอกกล่าวให้ทำฝนตก ชาวอีสานจึงมีการทำประเพณีนี้สืบต่อกันมาจนปัจจุบัน เมื่อถึงช่วงเดือนหก ก็จะมีการทำบุญนี้เป็นประจำโดยทำร่วมกับหมู่บ้านใกล้เคียง ให้ทำบั้งไฟมาจุดร่วมกันโดยเมื่อมีการทำบุญจะแบ่งเป็นสองวันคือวันโฮม ที่มีการแห่บั้งไฟประดับประดาสวยงามเป็นรูปต่าง ๆ และมีการละเล่นที่เชื่อว่ายิ่งเล่นสกปรก ลามก ยิ่งจะทำให้ฝนฟ้าอุดมสมบูรณ์เท่านั้น วันที่ 2 เป็นวันจุด ซึ่งก่อนจุดจะมีการทำการจุดบั้งไฟเพื่อเสี่ยงทายหรือบูชาพญาแถน เทพารักษ์ก่อนเสร็จแล้วจึงจุดบั้งไฟใหญ่ และมีการจัดการแข่งขัน ชิงรางวัลและเล่นการพนัน
อ้างอิง https://cac.kku.ac.th/heet12_kong14/bunkfai.html , http://is.udru.ac.th/local-scholars/knowledge/201.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น