วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

พาไปชม พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ประเทศลาว

สวัสดีทุกคน วันนี้ สลากไทพลัส ร่วมกับ กองสลากไท ขอพาทุกคนไปชมความสวยงามแห่งหลวงพระบาง ณ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ซึ่งเคยเป็นพระราชวังเก่า เต็มไปด้วยความสวยงามและโดดเด่นของความเก่าแก่โบราณให้เราได้ไปเยี่ยมชม ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดนิทรรศการโบราณวัตถุ และ พระคู่บ้านคู่เมืองของที่นี่ นั่นคือ พระบาง นั่นเองค่ะ มาเที่ยวลาวครั้งนี้จึงตั้งไปไหว้สักการะกันสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการบอกกล่าวว่าเราได้มาที่นี่ด้วย



พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงพระบาง ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดี่ยวยกพื้นสูง สถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์

กองสลากไท : พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง มีอะไรบ้าง

ภายในมีจัดแสดงประวัติศาสตร์ อันเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1904 เพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ ลักษณะ เป็นศิลปะแบบลาวผสมฝรั่งเศส มีแผนผังเป็นรูปกากบาท และ สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น

หอพระบาง ตั้งอยู่ใน หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ซึ่งเคยเป็น พระราชวังหลวงเก่า ที่ประทับของ เจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง โดยสร้างเมื่อ พ.ศ.2447 ในสมัย สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ และสืบทอดต่อมาถึงสมัยของกษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว คือ  สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ซึ่งภายในหอพระนี้เองเป็นที่ประดิษฐาน พระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง พุทธลักษณะของพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนปางประทานอภัย ทั้งสองพระหัตถ์ หรือปางห้ามสมุทร เป็นศิลปะสมัยขอมหลังบายน มีน้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ประกอบด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์ และในหอพระนี้ยังมีพระพุทธนาคปรก สลักศิลาอีกสี่องค์และยังมีกลองโบราณอยู่ด้วย



ห้องโถงด้านหน้า ประดิษฐาน พระบาง องค์พระสูง 83 เซนติเมตร พระหัตถ์แสดงปางอภัยมุทรา หล่อขึ้นด้วยทองคำ บริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ รวมน้ำหนักทั้งสิ้นราว 43 ถึง 54 กิโลกรัม คามตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นที่เกาะสิงหลเมื่อราวศตวรรษ ที่ 1เจ้าฟ้างุ้ม ทรงได้รับพระราชทานจากกษัตริย์เขมรมาอีกต่อหนึ่ง แต่ก็ต้องตกไปอยู่ในเมืองสยามถึงสองครั้ง ปี 1779 และ 1827 จน ปี 1867 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานกลับคืน ไปให้ภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีต และงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อยที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุดคล บรรณาการจากต่างชาติ และ งานศิลปะมากมายและงานประดับกระเบื้องอยู่รอบ ๆ ตัวอาคาร

ห้องท้องพระโรง ใช้ทำพีธีราชาภิเษก ซึ่งเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาเตรียมห้องนี้ไว้ทำพิธีราชาภิเษก แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงปกครองเสียก่อน ภายในห้องติดประดับด้วยกระจกโมเสดสีแดงจากประเทศฝรั่งเศส


นอกจากห้องสำคัญเหล่านี้แล้วด้านหลังของท้องพระโรงยังเป็นที่ตั้งของตำหนักของเจ้ามหาชีวิตนั่นเอง

ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและของพระมเหสี ภายในห้องสวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวลาว ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพงานประเพณี และยังมีรูปหล่อครึ่งองค์ของเจ้ามหาชีวิตอุ่นคำ เจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ซึ่งทั้งหมดนี้หล่อมาจากประเทศฝรั่งเศสค่ะ ส่วนของพระมเหสี ภายในห้องจะจัดแสดงของขวัญจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงยังมีห้องไว้สำหรับฟังธรรมของเจ้ามหาชีวิตอีกด้วย

สลากไทพลัส และ กองสลากไท ขอเชิญชวนสำหรับใครที่ไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบไกล ก็แนะนำให้เริ่มที่ประเทศลาวเลยค่ะ ไปง่าย สะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึงที่ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ที่รวบรวมเอาสิ่งที่ถูกสร้างไว้มาอย่างช้านาน พัฒนามาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ศึกษาหาความรู้กัน เรียกได้ว่ามาแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ



ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้ง : 27 Ounheun Rd, Luang Prabang, ประเทศลาว

อัตราการเข้าชม : 30,000 กีบ (ประมาณ 120 บาท)

เวลาทำการ : 08:00-11:30 น. และ 13:30-16:30 น.

หมายเหตุ : ภายในพระราชวังห้ามถ่ายรูปนะคะ

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com




อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




ล่องแก่งหนานมดแดง ที่เที่ยวพัทลุง สลากไทพลัส กองสลากไท

ถ้าจะให้นึกถึงล่องแก่งสนุกๆ ก็คงเป็นจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพ นี่แหละ แต่ใครจะคิดว่า ที่เที่ยว อย่าง จ.พัทลุง ก็มีล่องแก่งด้วย เพราะถ้าพูดถึง ภาคใต้ ก็อาจจะคิดถึง ทะเล เกาะแก่ง กันมากกว่า งั้นลองมามันส์ไปกับ ล่องแก่งหนานมดแดง สลากไทพลัส กองสลากไท รับรองว่าจะต้องถูกใจทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ



สัมผัส พัทลุง ในแบบมันส์ๆ ไม่เหมือนใครที่ ล่องแก่งหนานมดแดง สลากไทพลัส

     ล่องแก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ใน อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เป็นที่เที่ยวผจญภัยสุดฮิตของจังหวัดเลยค่ะ ที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวพัทลุงก็ต้องไม่พลาดไปล่องแก่งที่หนานมดแดง แต่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมาเฉพาะในช่วงนี้หน้าฝนเท่านั้นค่ะ ความสนุกจัดเต็มนั้น มีได้ทุกฤดูกาลค่ะ เพราะที่นี่เที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ 



ล่องแก่งหนานมดแดง สลากไทพลัส กองสลากไท

แรกเริ่มในการสร้างกิจกรรม ล่องแก่งหนานมดแดง

ล่องแก่งหนานมดแดง นี้ เกิดขึ้นจาก คุณโยธิน เขาไข่แก้ว ที่ได้ริเริ่มให้กับชาวบ้านในการสร้างกิจกรรมการล่องแก่งขึ้นมา เพราะด้วยพื้นที่ในตำบลลานข่อยนั้นมีห้วยน้ำใส ที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส มีแก่งหินในบางจุด และมีน้ำที่ถูกปล่อยออกมาตลอดทั้งปีเลยทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเล่นล่องแก่งมาก ๆ

เริ่มแรกนั้น จะมีเพียง ล่องแก่งหนานมดแดง เท่านั้น แต่ไม่นานนักก็ทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เลยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมาย บริเวณรอบๆ เลยมีรีสอร์ทอื่นๆ ขึ้นเยอะแยะมากมาย ที่เป็นของชาวบ้านในพื้นที่อีกกว่า 10 รีสอร์ทได้เลยค่ะโดยรีสอร์ททั้งหมดนี้ จะนำเที่ยวล่องแก่งในห้วยน้ำใสนี้เหมือนกันค่ะ ความสนุกของการล่องแก่งที่นี่นั้น จะอยู่ที่ความแรงของกระแสน้ำและแก่งหินต่างๆ ระดับความยากจะอยู่ที่ระดับ 2 หรือ 3 คือไม่อันตรายมากค่ะ ทำให้สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัวเลย ตั้งแต่เด็กเล็ก อายุ 5 ปีขึ้นไป ก็สามารถลงเล่นได้ค่ะ

ล่องแก่งหนานมดแดง จะใช้ระยะทางทั้งหมด 6.5 กิโลเมตร หรือราวๆ 2 ชั่วโมงค่ะ ส่วนในเรื่องของความอันตรายนั้น ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะแต่ละรีสอร์ทจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนใครที่พายเรือคายักไม่เป็นก็จะมีเจ้าหน้าที่บริการพายเรือให้ค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะทำให้ไม่สนุกค่ะ สำหรับค่าบริการ ล่องแก่งหนานมดแดง นั้น จะอยู่ที่คนละ 200 บาทเท่านั้นค่ะ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆทั้ง เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อก คนที่พายเรือไม่เป็นก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปพายให้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลยค่ะ



พิกัด ล่องแก่งหนานมดแดง กองสลากไท

ที่อยู่ : ล่องแก่งหนานมดแดง ทางหลวงชนบทพัทลุง 3140 ป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน

โทร : 0-81082-0206

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com




ตลาดใต้โหนด ที่เที่ยวพัทลุง อีกเสน่ห์ของหลาดใต้ สลากไทพลัส กองสลากไท

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวพัทลุง เป็นแหล่งชิม แหล่งช้อปปิ้ง ที่มีชื่อเสียงเลยก็ว่าได้ กับตลาดที่มีชื่อว่า ตลาดใต้โหนด สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่า เป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมถึง มีความห่วงใยต่อธรรมชาติอีกด้วยนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น แวะตามเที่ยวที่ตลาดนี้กันเลยค่า 



ตลาดใต้โหนด ตลาดชุมชนสีเขียว ที่เที่ยวพัทลุง กับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร 

     ตลาดใต้โหนด หรือ หลาดใต้โหนด ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านจันนา ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นตลาดนัดใต้ต้นตาลโตนด หรือ “ต้นโหนด” ในภาษาท้องถิ่นภาคใต้ เมื่อเริ่มแรกนั้น หลาดใต้โหนด เป็นแค่เพียงสถานที่อ่านหนังสือของเด็ก ๆ และ ชาวบ้านในหมู่บ้าน รวมถึงทเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ ทางด้านศิลปะเท่านั้น 

ต่อมา ก็ได้มีโครงการตลาดท้องถิ่น เพื่อให้ชาวบ้าน นำสินค้าปลอดสารพิษ พร้อมทั้งอาหารพื้นเมืองต่าง ๆ มาขาย ทำให้ในปัจจุบันนั้น มีร้านค้ามากกว่า 100 ร้านเลยทีเดียว โดยจะมีขายไปตั้งแต่ ผักสด ผลไม้สด อาหารพื้นเมือง ขนมพื้นเมืองที่หารับประทานได้ยาก และ สินค้าแฮนด์เมคต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ กินดี มีสุข นั่นเองค่ะ

แต่สิ่งที่ทำให้ ตลาดใต้โหนด นี้ ต่างไปจากตลาดชุมชนอื่นๆ ก็คือ การตกแต่งร้านค้า และพื้นที่ของตลาดที่จะเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติมาดัดแปลงและออกแบบ เพื่อให้มีความทันสมัย และยังให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการคิดค้นภาชนะใส่สินค้าได้ด้วย โดยจะให้นำวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นที่มีอยู่ มาทำให้กลายเป็น ภาชนะสุดเก๋ๆ เพื่อลดการใช้โฟมและพลาสติกค่ะ อีกทั้งยังมีความสดใหม่ความสะอาดของอาหาร รวมไปถึงราคาสบายกระเป๋าด้วย

บอกเลยว่านอกจากเราจะได้กินของอร่อยๆ และ ช้อปปิ้งที่ ตลาดใต้โหนด นี้แล้ว เรายังได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดโลกร้อน และ ทำให้เอกลักษณ์ของที่นี่ คงอยู่ต่อไปได้อีกด้วยนะคะ แม้ว่าในส่วนของตลาดนั้นจะเปิดแค่วันอาทิตย์ แต่บริเวณตลาดยังมีโซนของร้านกาแฟ และ เครื่องดื่ม ที่เปิดให้บริการทุกวันอีกด้วยค่ะ 



ข้อมูล ตลาดใต้โหนด พัทลุง สลากไทพลัส

ที่อยู่ : หมู่ที่ 4 บ้านศาลาม่วง ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

เปิดให้เข้าชม : เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ 07.00-16.00 น.

โทร : –

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




คลองปากประ ที่เที่ยวพัทลุง ชมแสงแรกของวัน สลากไทพลัส กองสลากไท

ทิวทัศน์อันงดงามอาจมาในรูปแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันน่าทึ่ง อย่าง คลองปากประ สลากไทพลัส กองสลากไท ขอบอกเลยว่าเป็น ที่เที่ยวพัทลุง ที่อยู่คู่วิถีการเกษตร และ การประมงอันเรียบง่ายมาอย่างยาวนาน ภาพของชาวบ้านที่ใช้ ยอยักษ์ จับปลา พร้อมกับแสงแรกของวัน ที่สาดสองในยามอาทิตย์ขึ้น กลายเป็นเสน่ห์ที่สามารถหยุดเวลาของใครหลาย ๆ คนเอาไว้ได้ นับเป็นความงามอันเป็นเอกลักษณ์ที่ควรมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต



ทำความรู้จักกับ คลองปากประ โดย กองสลากไท

      คลองปากประ เป็นคลองขนาดใหญ่แห่ง บ้านปากประ ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เกิดจากลำน้ำลายสายที่ไหลมารวมกันที่นี่ ก่อนจะไปบรรจบที่ ทะเลสาบสงขลา ในที่สุดค่ะ คลองปากประนับเป็นแหล่งน้ำสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพัทลุงเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งป่าพรุขนาดใหญ่แหล่งสุดท้ายของจังหวัดพัทลุง อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำที่เอาไว้ใช้ในการเกษตร รวมถึงเป็นแหล่งประมงสำคัญที่มีฝูงปลาจำนวนมากอาศัยอยู่ จึงไม่แปลกเลยหากเราจะเห็น ยอยักษ์ หรือ อุปกรณ์จับปลาขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้ไผ่ มีรูปทรงเป็นสีเหลี่ยมตั้งอยู่กลางผืนน้ำมากมาย



เสน่ห์ของ ตลาดปากประ โดย สลากไทพลัส

เสน่ห์ของตลาดปากประ คือการได้ชมวิถีชีวิตของชาวประมง ที่ใช้ยอยักษ์ในการจับปลา เป็นการจับปลาที่ทำต่อกันมาอย่างยาวนาน และ เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เราจะมีโอกาสได้นั่งเรือชมวิถีชาวประมงอย่างใกล้ชิด พร้อมกับชมแสงแรกของวันในยามเช้า ว่ากันว่าที่นี่เป็น จุดชมอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของพัทลุง โดยเฉพาะยามหน้าร้อน ที่เราจะได้เห็นภาพของท้องฟ้าไล่สี และยอยักษ์ที่สะท้อนกับผืนน้ำได้อย่างชัดเจน ทำให้ที่นี่กลายเป็นสวรรค์ ของนักถ่ายภาพเลยก็ว่าได้ ส่วนใครที่มาไม่ทันช่วงเช้า ก็สามารถมาชมความงาม ของคลองปากประในยามเย็นได้เช่นกันค่ะ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้กัน 

ในช่วงฤดูน้ำ จะเป็นช่วงเวลาที่มีฝูงปลามากเป็นพิเศษ เราจะได้เห็นชาวบ้านมาจับปลากันอย่างคึกคัก ส่วนฤดูเก็บเกี่ยว เราก็อาจจะได้ชมชาวนาที่ออกมาเก็บเกี่ยวรวงข้าวตามผืนนาบริเวณคลองปากประด้วยเช่นกัน ใครที่ชอบบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ไม่รีบร้อน จะต้องหลงรักในเสน่ห์ของคลองปากประอย่างแน่นอนค่ะ


การเดินทางไป คลองปากประ

คลองปากประ สลากไทพลัส กองสลากไท

การเดินทางไปยัง คลองปากประ จากอำเภอเมืองพัทลุง ให้ใช้มุ่งหน้าไปบนถนนอภัยบริรักษ์ ประมาณ 7 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ตลาดลำปำเพื่อเข้าสู่ถนนลำปำ – ทะเลน้อย ขับตามทางไปประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงสะพานข้ามคลองปากประค่ะ  



ข้อมูล คลองปากประ พัทลุง

ที่อยู่ : บ้านปากประ ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

เปิดให้เข้าชม : 05.00-18.00 น.

โทร : –

เว็บไซต์ : – 

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com




อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส






นาโปแก ที่เที่ยวพัทลุง สัมผัสทุ่งนาสีเขียว สลากไทพลัส กองสลากไท

ถ้าให้นึกภาพของทุ่งนาสีเขียว สะพานไม้ ที่อยู่ใน ภาคใต้ เราอาจจะนึกภาพไม่ค่อยออกกัน ภาคใต้ก็ต้องทะเลสิเนอะ แต่สำหรับที่พัทลุง มีค่ะ สำหรับ ทุ่งนาสีเขียวขจี ที่มี สะพานไม้พาดผ่านกลางทุ่ง พร้อมโฮมสเตย์ให้พักเลย ที่สำคัญมีกิจกรรมกลางทุ่งนาให้ทำอีกด้วย อยู่ครบใน นาโปแก สลากไทพลัส กองสลากไท ขอแนำนำ สถานที่แห่งนี้เลยค่ะ



นาโปแก สลากไทพลัส กองสลากไท

เช็คอิน นาโปแก สัมผัสวิถีชาวนา ที่ พัทลุง 

     นาโปแก ตั้งอยู่ใน ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นบริเวณของแปลงปลูกข้าวสาธิต ที่เต็มไปด้วยข้าวพันธุ์พื้นเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสังข์หยด ข้าวซ้อมมือโบราณ เป็นต้น และเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรกรไทย ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการเกี่ยวข้าว ไถนา ดำนา เลี้ยงควาย ไปจนถึง การขุดบ่อปลา แถมยังมีน้องควายตัวเป็นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนหญ้าและชื่นชมความน่ารักกันอีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ภายใน นาโปแก ยังมี ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และ ร้านขายสินค้าทางการเกษตร สินค้าพื้นเมืองต่างๆ ให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันด้วยค่ะ โดยทางเดินไปแต่ละร้านนั้น จะเชื่อมกันด้วยสะพานไม้ที่ทอดยาวผ่านท้องนาสีเขียวค่ะ สามารถชมวิวทิวทัศน์ เดินเล่น ถ่ายรูปกับท้องนา รับลมเย็นๆ ได้แบบชิลๆ เลย แต่นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากนอนค้างคืนพักที่นี่ ทางนาโปแกก็มี โฮมสเตย์ ขนำปลายนา ไว้ให้บริการเช่นเดียวกันค่ะ

ส่วนคำว่า นาโปแก นั้น จริงๆ แล้วเป็นภาษาพื้นบ้านท้องถิ่น นา ก็คือหมายถึง นาข้าว ส่วนคำว่า โปแก เป็นสำเนียงปักษ์ใต้ หมายถึงพ่อของแม่ พ่อแก่ พ่อเฒ่า หรือ คุณตา ค่ะ พอมารวมกัน ก็มีความหมายว่า ที่นาของคุณตา นั่นเองค่ะ เห็นแบบนี้ แต่ที่นี่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดนะคะ เป็นที่เที่ยวที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้จริงๆ ค่ะ



นาโปแก นั้น สามารถมาทางถนนสายควนขนุน-ทะเลน้อย ได้เลย เพราะตั้งอยู่ริมถนนสายนี้เลยค่ะ อยู่ห่างจากตัวอำเภอควนขนุนแค่5 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ ใกล้กับ วัดบ้านสวน ก่อนถึง ตลาดปากคลอง รับรองว่าหาไม่ยากอย่างแน่นอนค่ะ เป็น ที่เที่ยวพัทลุง ที่อยากให้ลองมากันดูค่ะ แล้วรับรองว่านอกจากความสนุกแล้ว จะได้อะไรกลับไปอีกเยอะอย่างแน่นอนค่ะ

พิกัด นาโปแก โดย สลากไทพลัส

ที่อยู่ : นาโปแก หมู่ที่ 6 456 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง 

เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.30 น. (วันจันทร์ – วันศุกร์) , 08.00-18.30 น.(วันเสาร์ – วันอาทิตย์)

โทร : 06-2591-6632

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สลากไทพลัส ชวนเข้าพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

สลากไทพลัส กองสลากไท พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก Nymphenburg พระราชวัง ( เยอรมัน : Schloss Nymphenburg พระราชวังของนางไม้ ) เป็นพิสดาร พระราชวังตั้งอยู่ในมิวนิค ‘s อำเภอตะวันตก Neuhausen-Nymphenburg ในบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมนี เมื่อรวมกับสวนพระราชวังนิมเฟนเบิร์กที่อยู่ติดกันถือว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังชั้นนำของยุโรป ความกว้างของหน้าผากของ 632 เมตร (2,073 ฟุต) (แกนทิศตะวันตกเฉียงใต้) แม้เกินกว่าแวร์ซายพาเลซ Nymphenburg ทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อนหลักสำหรับอดีตผู้ปกครองของบาวาเรียของสภา Wittelsbach



ภาพถ่ายมุมกว้าง พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

กองสลากไท : ประวัติศาสตร์ ประวัติการสร้าง

พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

สลากไทพลัส กองสลากไท พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก Nymphenburg พระราชวังรอบ 1760 เป็นวาดโดย เบอร์นาร์โด Bellotto

พระราชวังได้รับมอบหมายจากการเลือกตั้งคู่เฟอร์ดินานด์มาเรียและเฮนเรียแอดิเลดแห่งซาวอยกับการออกแบบของสถาปนิกอิตาเลียนแอโกสทิโนบาเรล ลี ใน 1664 หลังจากการเกิดของลูกชายของพวกเขาMaximilian II มานูเอล ศาลากลางเสร็จสมบูรณ์ใน 1,675 เป็นวัสดุก่อสร้างก็ใช้หินปูนจากKelheim วังได้รับการขยายและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากนั้นมันก็เข้ามาแทนที่ปราสาท Blutenburg ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็วในฐานะที่พักล่าสัตว์ที่สำคัญของศาล

เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1701 แมกซีมีเลียน เอ็มมานูเอล ทายาทแห่งบาวาเรีย ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่มีอำนาจอธิปไตยของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ดำเนินการขยายพระราชวังอย่างเป็นระบบ ศาลาสองหลังถูกเพิ่มเข้ามาทางทิศใต้และทิศเหนือของวังของ Barelli โดยEnrico ZucalliและGiovanni Antonio Viscardiและเชื่อมต่อกับศาลากลางด้วยปีกแกลเลอรี่สองปีก ใน 1716, โจเซฟเอฟฟ์เนอร์ออกแบบซุ้มของศาลากลางในฝรั่งเศสบาร็อคสไตล์ด้วยเสา ต่อมาได้มีการขยายส่วนใต้ของพระราชวังต่อไปเพื่อสร้างคอกม้า (ค.ศ. 1719) เพื่อความสมดุล ได้มีการเพิ่มอาคารส้มไปทางทิศเหนือซึ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1758 เท่านั้น ในที่สุดพระราชวังนิมเฟนเบิร์กก็สร้างเสร็จด้วยวงกลมใหญ่ ( ปราสาทชลอสรอนเดลล์ ) ของคฤหาสน์สไตล์บาโรก (ที่เรียกกันว่าบ้านพักของทหารม้า) สร้างขึ้นภายใต้ ลูกชายของแมกมานูเอลของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์อัลเบิร์ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว




Birthroom ของกษัตริย์ ลุดวิกที่สองแห่งบาวาเรีย

ในปี ค.ศ. 1795 ชาร์ลส์ ธีโอดอร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแห่งบาวาเรียได้สั่งให้ขยายหอศิลป์ที่ฝั่งสวน ในปี ค.ศ. 1826 ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 แห่งบาวาเรียสถาปนิกของเขาLeo von Klenze ได้ถอดหน้าจั่วของศาลาหลักด้วยเสื้อคลุมแขนของการเลือกตั้ง และสร้างการตกแต่งสไตล์ห้องใต้หลังคาโดยตรงใต้หลังคาแทน


ภาพถ่ายศิลปะการตกแต่งภายใน พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

ที่ตั้ง พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

Schloß Nymphenburg 1, 80638 München, เยอรมนี


ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม: อยู่ระหว่าง 3.5 – 5 ยูโร อัตราค่าเข้าชมขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่น และยังมีประเภทตั๋วเข้าชมรวมกับสถานที่อื่น



ภาพถ่ายบรรยากาศโดยรอบ พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

เวลาทำการ

เวลาเปิด-ปิด: กำหนดการเปิด-ปิด แต่ละจุดต่างกัน


ประตูหลัก มกราคม – มีนาคม, พฤศจิกายน, ธันวาคม เวลา 6.00 น. – 18.00 น.      

เมษายนและตุลาคม เวลา 06:00 น. – 20:00 น.   

พฤษภาคม – กันยายน เวลา 06:00 น. – 21:30 น.

ส่วนพระราชวัง พิพิธภัณฑ์  1 ม.ค.-15 ต.ค. เปิดเวลา 9.00-18.00 น. ตั้งแต่ 16 ต.ค. – มีนาคม 10.00-16.00 น.

ส่วน Palace Chapel เปิดเม.ย. – 15 ต.ค. เวลา 9.00-18.00 น.

ส่วน Park Palaces เปิดเม.ย.-15 ต.ค. เวลา 9.00-18.00 น. ตั้งแต่ 16 ต.ค. –มี.ค. ปิด

ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 20 นาที



วิธีการเดินทาง

1. รถใต้ดิน U-Bahn สาย U1 U7 ลงที่สถานี Gern หรือสถานี Rotkreuzplatz

2. รถไฟ S-Bahn สาย S1-S4 หรือ S6 ลงที่สถานี Munchen Hirschgarten

3. รถบัส สาย 62 N43 N44

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส





ที่เที่ยวเชียงใหม่ สวนส้มจินจู ม่อนแจ่ม เก็บส้ม ถ่ายรูปสวย สลากไทพลัส กองสลากไท

อากาศดีแบบนี้…มาเก็บส้มกันเถอะ  ตามเราไป เที่ยวเชียงใหม่ แบบไม่ซ้ำ ถ่ายรูปสวยสุดปัง ดื่มน้ำส้มชื่นใจ เก็บส้มจากต้นกลับบ้านกันได้ที่ ม่อนแจ่ม ที่เที่ยวเชียงใหม่ สวนส้มจินจู สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่าสถานที่แห่งนี้ ที่เทรนด์สุดๆ อยู่ในตอนนี้ ให้เราได้แปลงร่างไปเดินสวย ๆ ในสวนส้ม มันเก๋ และ เท่มาก ได้ฟีลเหมือนอยู่เกาหลี Feel like Korea กันไปเลยจ้า



สวนส้มจินจู ม่อนแจ่ม ที่เที่ยวเชียงใหม่ ถ่ายรูปสวย สุดปัง สลากไทพลัส

สวนส้มจินจู สลากไทพลัส กองสลากไท

      คิ้วท์ไม่ไหว…กับ สวนส้มเชียงใหม่  บนเขาสไตล์เกาหลี สวนส้มจินจู บนม่อนแจ่มนี่เองค่ะ ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ แค่ 45 นาทีเท่านั้น ตอนนี้ส้มกำลังสุกเลยค่ะ ออกลูกเต็มต้นน่ารัก และ น่ากินมาก ๆ แถมบอกเลยว่า เทรนด์ตอนนี้ ที่กำลังมาเลยนอกจากไปถ่ายรูปทุ่งดอกไม้สวย ๆ ในเชียงใหม่แล้ว การได้ไปเดินถ่ายรูปท่ามกลางสวนส้มนี่แหละค่ะ กำลังมาสุด ๆ

สำหรับคนชอบถ่ายรูปแล้วล่ะก็ ต้องฟินแน่ ๆ มุมถ่ายรูปที่สวนเยอะมาก ไม่ต้องเอาพร็อพมาเองเลย เพราะเค้ามีให้ทั้ง ตะกร้า ทั้งบันไดใดใดก็คือพลาดไม่ได้  ไปนั่งพักชิล ๆ พร้อมปิกนิคในสวนส้ม คือดีมาก ๆ

จะให้เนียนเข้าไปอีก เหมือนชาวสวน ก็ต้องถือตระกร้าหวาย และ กรรไกร ไปตัดผลส้มสด ๆ จากต้นใช่มั้ยล่ะ ที่นี่เค้าก็ครบมาก ๆ ให้เราสามารถเก็บผลส้มสด ๆ ด้วยตัวเองได้อีกค่ะ เอากลับบ้านได้เลย กิโลละ 70 บาท ก็เก็บมาค่ะ บอกเลยว่าส้มอร่อยมรกๆ เก็บส้มเสร็จก็มานั่งชิลใต้ต้นส้ม เท่สุด ๆ 

       ค่าเข้าก็คนละ 50 บาท ไม่ต้องกลัวว่ารถจะขึ้นไม่ไหว เพราะเขามีบริการรถรับส่งจากลานจอดรถเลย ในสวนมีน้ำส้มสด ๆ ขาย ให้ได้อร่อยสดชื่นมาก ๆ เปรี้ยวอมหวานไม่ผสมน้ำตาล ส้มแท้ๆ 100% ทีเดียว ที่สำคัญห้องน้ำสะอาดมากค่ะ 



ที่นี่ยังมีลานจอดรถสนามหญ้าลานกว้างให้บริการด้านล่างก่อนถึงสวนประมาณ 300 เมตร และ จะมีรถกระบะของสวน รับส่งเราถึงหน้าสวนอีกทีค่ะ 

     เอาล่ะ! ไปเที่ยวเชียงใหม่คราวนี้ ต้องไม่พลาดแวะมาเช็คอินฟิน ๆ กันที่ สวนส้มจิมจู ม่อนแจ่ม กันนะคะ เราก็จะได้ถ่ายรูปสวย ๆ ได้จิบน้ำส้ม 100% อมเปรี้ยวอมหวานให้สดชื่น และ ยังเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ช่วยเกษตรกรกันอีกด้วย 



ข้อมูล สวนส้มจิมจู เชียงใหม่ กองสลากไท

ที่อยู่ : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท

อายุต่ำกว่า 7 ขวบเข้าฟรี

โทร :  096-025-211

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส





จุดชมวิว ดอยบ่อ ที่เที่ยวเชียงราย นอนกางเต็นท์ ดูวิวสวย พร้อมทะเลหมอกขาว สลากไทพลัส กองสลากไท

ได้เวลาออกไปเที่ยว จ. เชียงราย กันแล้วว บนความสูงของยอดดอย ที่มีวิวสุดปังอลังการอย่าง จุดชมวิว ดอยบ่อ สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่า จะวิวเมืองหรือวิวธรรมชาติก็ปังสุดๆ ยิ่งถ้าใครชอบเที่ยวในบรรยากาศแบบนี้ พร้อมกับซึบซับวิถีชีวิตของชาวเขาด้วย ก็ไม่ควรพลาดมาเยือนที่นี่ ไปค่าาา ไปชมวิวของที่นี่เลยดีกว่า



ประวัติความเป็นมา จุดชมวิว ดอยบ่อ สลากไทพลัส

                 จุดชมวิวดอยบ่ออยู่บนเทือกเขาดอยบ่อ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 945 เมตร จุดชมวิวแห่งนี้มีลานกว้างขวาง โดยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ตัวเมืองเชียงราย ได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากางเต็นท์เพื่อ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นจัด สามารถมองเห็นสายหมอกก่อตัวที่หุบเขาเบื้องล่างมีความงดงามมาก และ ช่วงกลางคืนจะเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองของจังหวัดเชียงราย ด้วยแสงไฟระยิบระยับสวยงาม หรือแม้กระทั่ง ฤดูฝนก็จะมีสายหมอกบาง ๆ ปกคลุมไปทั่วเช่นกัน นักท่องเที่ยวมักที่ชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่นี่ 



ไฮไลท์ ของ จุดชมวิว ดอยบ่อ

     จุดชมวิว ดอยบ่อ เป็นพิกัดที่อยู่ใน บ้านห้วยแม่ซ้าย ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย  โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล945 เมตร และจุดชมวิวบริเวณนี้ก็จะมีลานกว้างขวาง ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองเชียงรายได้แบบชัดๆ ไปเลย รวมถึงยังสามารถมานอนกางเต็นท์ชมวิวแบบใกล้ชิดได้ด้วย

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวบริเวณ จุดชมวิว ดอยบ่อ จะมีอากาศเย็นอย่างมาก เลยจะมีสายหมอกก่อตัวขึ้นมาในช่วงหุบเขาด้านล่างนั่นเองค่ะ เกิดเป็นภาพความงดงามที่หาชมได้ยากจริงๆ ส่วนช่วงกลางคืนเราก็จะเห็นวิวจากแสงไฟในเมืองค่ะ แต่ถ้าใครมาเที่ยวในช่วงฤดูฝน ก็จะเจอสายหมอกบางๆ เหมือนกัน 

     และใครที่ชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า จะต้องประทับใจแน่นอน เพราะสวยงามจนลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว นอกจากนี้เลยจาก จุดชมวิว ดอยบ่อ ไปไม่ไกลยังมีหมู่บ้านยะฟู ที่เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ ภายในหมู่บ้านนั้นมีเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ ใครชอบบรรยากาศแบบนี้ จองที่พักไปนอนชิลๆ ได้เลย แถมยังได้ซึมซับวิถีชีวิตต่อของคนที่นี่ด้วยน้า ดีงามมากๆ เลยจะบอกให้!

ข้อมูล ดอยบ่อ เชียงราย สลากไทพลัส

ที่อยู่ : ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

โทร : –

เว็บไซต์ : –

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




เที่ยวหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ที่เที่ยวลาว เก่าแก่ มรดกแห่งล้านช้าง สลากไทพลัส กองสลากไท

เรียกว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เหลือล้นจริงๆ ค่ะสำหรับ หลวงพระบาง ที่เที่ยวลาว แห่งนี้ ที่แม้จะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยเสนห์ของธรรมชาติบริสุทธิ์ วัฒนธรรม และ วัดสวย อย่าง วัดเชียงทอง สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่า วัดเก่าแก่ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ของหลวงพระบาง จะวิจิตรงดงามขนาดไหน ตามเรามาไหว้พระทำบุญที่ วัดเชียงทอง ที่เที่ยวหลวงพระบาง กันค่ะ




วัดสวย หลวงพระบาง สลากไทพลัส

      ถ้าถามถึงวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หนึ่งในนั้นก็ต้องมีวัดเชียงทอง ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณที่ แม่น้ำคาน ไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำโขง นั่นเองค่ะ ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้คือ สิม หรือ พระอุโบสถที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง เป็นสิมที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมล้านช้าง ได้อย่างวิจิตรงดงามจนได้รับการยกย่องให้เป็น “อัญมณีแห่งล้านช้าง” นอกจากนี้ วัดเชียงทองยังมี หอพระม่าน ที่ประดิษฐาน พระม่าน 1 ใน 3 พระพุทธรูปสำคัญของเมืองหลวงพระบางอีกด้วยค่ะ

ประวัติ วัดเชียงทอง

วัดเชียงทองสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2101-2103 ในสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้เคยปกครองทั้งล้านนาและล้านช้าง โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ เวียงจันทน์ ค่ะ วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็น วัดประตูเมือง และเป็นท่าเทียบเรือทางเหนือของตัวเมือง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำโขงนั่นเอง จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2430 วัดแห่งนี้ก็ได้รอดพ้นจากภัยอัคคีในสงครามปราบฮ่อ เมื่อครั้งฮ่อบุกเผาทำลายตัวเมืองมาได้ และยังสามารถอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมแห่งนี้เอาไว้ได้มาจนถึงปัจจุบัน



ไฮไลท์ วัดเชียงทอง สลากไทพลัส

 สิม หรือ อุโบสถของวัดเชียงทองถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิมที่สะท้อนศิลปะล้านช้างออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นได้จาก หลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ แสดงให้เห็นว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง เพราะหากเป็นวัดสามัญทั่วไปแล้วจะมีช่อฟ้าเพียง 1-7 ช่อเท่านั้น ส่วนหน้าบัน หรือที่ชาวลาวเรียกว่า โหง่ ประดับตกแต่งด้วยเศียรนาคและลวดลายเกี่ยวกับศาสนาพุทธ

ภายในสิมเป็นที่ประดิษฐาน พระประธาน หรือ พระองค์หลวง รวมถึง พระบางจำลอง ที่ประดิษฐานอยู่ด้านข้าง หลังจากที่กราบไหว้องค์พระเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ห้ามพลาดไปชมผนังด้านหลังของพระอุโบสถ ซึ่งเป็นงานกระจกสีที่ประดับตกแต่งจนกลายเป็นต้นทองขนาดใหญ่ และรูปสัตว์ในวรรคดี สื่อถึงตำนานการสร้างเมืองหลวงพระบางเมื่อกาลก่อน ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเยี่ยมชมเป็นอย่างมากค่ะ



วัดเชียงทอง สลากไทพลัส กองสลากไท

ไฮไลท์สำคัญอีกอย่าง วัดเชียงทอง โดย กองสลากไท

      อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ หอพระม่าน ที่ประดิษฐาน พระม่าน 1 ใน 3 พระพุทธรูปสำคัญของเมืองหลวงพระบางนั่นเองค่ะซึ่งปกติแล้วเราจะไม่สามารถเข้าไปในหอพระม่านได้ ถ้าอยากชมความงามของพระม่านอย่างชัดเจนก็ต้องรอช่วงหลังสงกรานต์ ที่จะมีการอัญเชิญองค์พระม่านมาให้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ

นอกจากนี้ก็ยังมี หอพระพุทธไสยาสน์ ผนังด้านนอกทาพื้นเป็นสีชมพูกุหลาบ ตกแต่งด้วยกระจกสี เป็นลวดลายสวยงาม บอกเล่าถึงนิทานพื้นบ้าน ที่มีคำสอนเกี่ยวกับธรรมะไว้เตือนสติผู้คน เป็นผลงานที่ทรงคุณค่าไม่แพ้กับจุดอื่น ๆ ในวัดเลยค่ะ ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ถือเป็นสถานที่สำคัญ ที่ควรมากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลสักครั้งในชีวิตค่ะ

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com


อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส





ปราสาทหินวัดพู เมืองจำปาสัก ประเทศลาว สลากไทพลัส กองสลากไท

ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวลาวและ ชาวต่างชาติ คือ ปราสาทหินวัดพู สลากไทพลัส กองสลากไท พบว่า ปราสาทขอมโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 3 สมัยคือ สมัยอาณาจักรเจนละ สมัยอาณาจักรขอมก่อนเมืองพระนคร และ สมัยอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งในยุคสมัยสุดท้ายนี้ก็คือประเทศลาวในปัจจุบันนั่นเอง



ปราสาทหินแห่งนี้จึงนับว่าเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่แสดงถึงอารยธรรมโบราณในอดีต มีการค้นพบศิลาจารึกที่บันทึกไว้ว่าในช่วงศตวรรษที่ 6 – 8 ว่าที่ตั้งของปราสาทแห่งนี้ คือ สถานที่ประกอบพิธีบูชายันต์ ต่อมาในศตวรรษที่ 9 มีการใช้พื้นที่นี้สร้างเป็นปราสาทหิน เพื่อเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู และ สุดท้ายเมื่อเข้าสู่สมัยอาณาจักรล้านช้าง ปราสาทหินวัดพูจึงถูกเปลี่ยนจากเทวาลัย เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาท และ ด้วยความเก่าแก่ ทั้งเรื่องราว และ สถานที่จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก




ปราสาทหินวัดพู สลากไทพลัส กองสลากไท

เมื่อเราเดินเข้าสู่อาณาเขตของ ปราสาทหินวัดพู โดย สลากไทพลัส

เราจะพบว่า ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง และ ใหญ่โตมาก ๆ ค่ะ สมกับเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญมากในอดีต ตัวปราสาทตั้งอยู่ด้านหน้า ภูเขาลูกใหญ่ที่ชาวลาวเรียกกันว่า ภูเกล้า เพราะ ภูเขามีลักษณะเหมือนผู้หญิงเกล้ามวยบ้าง ก็ว่ามีลักษณะคล้ายหน้าอกผู้หญิง จึงมีอีกชื่อเรียกว่า ภูเขานมสาว

นอกจากทางเดินที่ทอดยาวสู่ตัวปราสาทแล้ว เมื่อจะขึ้นสู่องค์ประธานด้านบนสุด ของปราสาท จะต้องเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดที่ทางขึ้นจะชันขึ้นเรื่อย ๆ เพราะบันไดเป็นทางขึ้นเขาค่ะ

ระหว่างทางเดินสู่ด้านบนจะพบกับซากวังที่ใช้เป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ในอดีต ( ปราสาทหินวัดพู )

โดยรวมแล้วปราสาทหินวัดพูแห่งนี้ นับว่ายังคงความสมบูรณ์ ของโบราณสถานเก่าแก่ได้ดี ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมสัมผัสได้ถึงสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และ ร่องรอยอารยธรรม ในอดีตได้เป็นอย่างดีตามไปด้วยค่ะ ถ้าใครมีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวที่ลาวใต้ ควรแวะมาเที่ยวชม ปราสาทหินวัดพู มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งนี้กันดูสักครั้งค่ะ



พิกัดสถานที่ ปราสาทหินวัดพู โดย กองสลากไท

ที่ตั้ง : ห่างออกไปจากเมืองจำปาสักไปทางทิศใต้ 10 กิโลเมตร

สามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม 50,000 กีบ / คน หรือประมาณคนละ 220 – 230 บาท / คน

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com




อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

วัดศรีชุม สลากไทพลัส กองสลากไท

วันนี้ เราจะพามาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์  พร้อมกับเปิดตำนาน พระพุทธรูปพูดได้ ที่ วัดศรีชุม  สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่า หนึ่งในวัดเก่าแก่ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กันค่ะ 


วัดศรีชุม ไฮไลท์ของเมืองมรดกโลก โดยกองสลากไท

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกเมืองหนึ่งที่สำคัญของบ้านเรา นอกจากนี้ยังเป็นอีกเมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก โดยยูเนสโก้อีกด้วย ทำให้ในแต่ละปี ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยเอง และชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยือนไม่เคยขาดสาย ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะ และ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานหลายศตวรรษนั่นเอง และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งในอุทยานประวัติศาสตร์ก็คือ วัดศรีชุม เรียกได้ว่าเป็นอีกวัดที่เป็นไฮไลท์ของเมืองมรดกโลกแห่งนี้เลยทีเดียว


วัดศรีชุม พระพุทธรูปพูดได้ มีจริงหรือไม่ ? กองสลากไท

      วัดศรีชุม เป็นศาสนโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยค่ะ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ตามฝาผนังอุโมงค์มีภาพเขียนเก่าแก่ อายุเกือบ 700 ปี ที่เลือนไปแทบทั้งหมด อีกทั้งผนังมีแผ่นหินชนวนสลักภาพลายเส้นเป็นเรื่องในชาดกต่างๆ จำนวน 50 ภาพ ประดับต่อเนื่องกัน ถือได้ว่าเป็นงานจิตรกรรมไทยที่เก่าแก่ที่สุดเลยก็ว่าได้

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบสุโขทัย อยู่ในมณฑปชื่อว่า พระพุทธอจนะ เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ และมีมนต์เสน่ห์ มีเอกลักษณ์ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม และสักการะอย่างไม่ขาดสายค่ะ

วัดศรีชุมนั้น มีการสร้างที่แปลกกว่าวัดทั่วไปโดยใช้มณฑปที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานเป็นพระประธานเปรียบเป็นอุเทสิกเจดีย์ และมีพระวิหารต่อออกมาแบบที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น นักโบราณคดีให้ความเห็นว่ามณฑปพระอจนะ น่าจะสร้างโดยมีคติเป็นพระคันธกุฎี คือที่ประทับของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลนั่นเอง

      อีกหนึ่งในเรื่องเล่าของวัดศรีชุมนี้คือ “พระพูดได้” พระในที่นี้ไม่ใช่พระสงฆ์แต่อย่างใดค่ะ แต่เป็นพระพุทธอจนะ พระพุทธรูปของวัดนั่นเอง



ที่มาของพระพุทธรูปพูดได้ วัดศรีชุม สลากไทพลัส

 ตามตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกกองทัพไปปราบกฎที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการมาชุมนุมที่วัดศรีชุมก่อน การรบในครั้งนี้เป็นการรบระหว่างคนไทยเราด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบ และไม่อยากรบ

      สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้มีการวางแผนสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับทหารเหล่านั้น โดยการให้ทหารนายหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังขององค์พระพุทธรูป และพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดตำนาน “พระพูดได้” ขึ้น นอกจากนี้วัดศรีชุมยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้มีการจัดพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาขึ้นที่นี่อีกด้วย

นานๆ ทีจะได้มาเที่ยวชมโบราณสถานแบบนี้ ทำให้เรารู้เรื่องราวของประเทศไทยในอดีตมากกว่าการอ่านจากตำราขึ้นกว่าเดิมมากค่ะเพราะนอกจากจะได้เห็นของจริง สถานที่จริงๆ แล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศในสถานที่นั้นๆ ด้วย ทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ เราก็ขนลุกแทบทุกครั้งเหมือนกัน อาจเพราะว่า ณ ที่นั้นเราสามารถเข้าใจ และรับรู้ถึงประวัติศาสตร์ได้จริงๆ

พิกัด วัดศรีชุม โดย กองสลากไท

ที่อยู่ : ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

เปิดให้เข้าชม : 07.30-17.30 น.

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท

โทร : –

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส





ตึกชิโนโปตุกีส เมืองเก่าภูเก็ต สลากไทพลัส กองสลากไท

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวในเมืองของ จ.ภูเก็ต ก็จะต้องมี เมืองเก่าภูเก็ต ที่ล้อมรอบไปด้วย ตึกชิโนโปตุกีส สลากไทพลัส กองสลากไท บอกเลยว่าตึกมีความ สีสันสดใสนี่แหละค่ะ เพราะนอกจากทะเลสวย น้ำใส หมู่เกาะต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันอย่างมาก ตามเราไปเดินเล่นชิลๆ ในเมือง ถ่ายรูปสวยๆ กันเลยดีกว่า



ที่เที่ยวภูเก็ต เมืองเก่าภูเก็ต เดินเที่ยวชิล ชมวิวเมือง ตึกชิโนโปตุกีส สลากไทพลัส

ตึกชิโนโปตุกีส สลากไทพลัส กองสลากไท

     การมาเที่ยว เมืองเก่าภูเก็ต สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเดินเท้าค่ะ ถึงจะได้สัมผัสความเป็นเมืองและแวะถ่ายรูปที่จุดต่างๆ ได้อย่างสวยงาม One Day Trip ของเราวันนี้จะเริ่มกันที่โรงแรม Courtyard by Marriott Phuket Town ที่อยู่ใกล้ๆ กับ หอนาฬิกา วงเวียนสุรินทร์ที่ตั้งอยู่กลางเมืองนี่เองค่ะ 



ประวัติ เมืองเก่าภูเก็ต โดย สลากไทพลัส

     แต่ก่อนจะไปเดินเล่นกันนั้น มารู้จักประวัติคร่าวๆ ของ เมืองเก่าภูเก็ต กันก่อนเลย ที่นี่จะเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุมากว่า 100 ปีโดยมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว ซึ่งก็คือยุคภูเก็ตเหมืองแร่ที่โด่งดังที่สุดนั่นเองค่ะ มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มากมาย ทั้ง ชาวจีนอินเดีย อาหรับ และ ชาวยุโรป 

     โดยทั้งหมดเข้ามาทำการค้าและอาศัยอยู่ที่ภูเก็ตนี่เอง ทำให้เกิดการผสมผสานวิถีความเป็นอยู่ ศิลปะ วัฒนธรรม รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกิน เลยกลายมาเป็นสถาปัตยกรรม ชิโนโปรตุกีส ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี่เอง โดยยุคนั้นถือว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะโซนของแหลมมลายูค่ะ

ส่วนใหญ่ใน เมืองเก่าภูเก็ต จะบริเวณของอาคารตึกสูง 2-3 ชั้น ที่มีหน้าแคบแต่ก็มีความลึกอย่างมาก เป็นบ้านแบบกึ่งร้านค้า ด้านหน้าเป็นร้านค้า แต่ด้านหลังที่ลึกเข้ามาจะเป็นส่วนของที่พักอาศัยนั่นเองค่ะ กลายเป็นแลนด์มาร์คที่มีเสน่ห์ให้ใครต่างก็อยากเข้ามาสัมผัสกัน



เดินเที่ยวชมวิว เมืองเก่าภูเก็ต

     มาที่ทริปของเราในวันนี้บ้าง จุดหมายแรกจะอยู่ที่ ศาลเจ้าแสงธรรม หรือที่เรียกว่า อ๊ามเต่งก้อง เป็นศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของภูเก็ต ที่อายุมากกว่าร้อยปี โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 เป็นสถานที่ไว้สำหรับประดิษฐานเทพเจ้าจีน ตัวอาคารจะมีรูปทรงคล้ายเก๋งจีนขนาดเล็กๆ มีหลังคาปูนปั้นรูปมังกร และตุ๊กตาจีน ที่นิยมอย่างมากในมณฑลฮกเกี้ยนค่ะ อีกทั้งทางเดินเข้าไปตัวศาลเจ้ายังมีภาพการ์ตูนตามฝาผนังเอาไว้ถ่ายภาพสวยๆ อีกด้วยนะคะ

เสร็จจากศาลเจ้าแสงธรรม เราก็เดินไปเที่ยวกันต่อที่พิกัดที่คนมักจะไปถ่ายภาพกัน ตึกธนาคารกสิกรไทย ตึกสีขาวสไตล์ชิโนโปรตุกีสอันโดนเด่น โดยลักษณะอาคารนี้จะเรียกกันว่า อั้งม้อหลาว ในภาษาฮกเกี้ยนจะหมายถึง คฤหาสน์แบบฝรั่ง ที่นายหัวเหมืองแร่เอาไว้ใช้อยู่อาศัยนั่นเองค่ะ

โดยตรงกันข้ามธนาคารก็จะเป็น โรงแรมออนออน เป็นโรงแรมเก่าแก่ ที่มีเสน่ห์มากจริงๆ มุมหน้าโรงแรมก็ถ่ายรูปสวยเช่นกัน เห็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาแชะภาพกันไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ ถ่ายรูปกันเสร็จก็เดินไปต่ออีกหน่อย แวะคาเฟ่ชิคๆ กันที่ ร้านคาเฟ่ที่มีงานอาร์ทโชว์อยู่เยอะมาก ที่สำคัญมีกาแฟให้ได้ดื่มผ่อนคลายด้วย

ข้อมูล เมืองเก่าภูเก็ต

ที่อยู่ : 175 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

โทร : –

เว็บไซต์ : –

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




แพะเมืองผี จ.แพร่ สลากไทพลัส กองสลากไท

แพะเมืองผี สลากไทพลัส กองสลากไท

     แพะเมืองผี สลากไทพลัส กองสลากไท ขอแนะนำเลยว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.แพร่ ที่ทุกคนต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน เพราะเป็นความสวยงามจากธรรมชาติ ที่สวยและแปลกตา ที่เป็นไฮไลท์สุดๆ เป็น Unseen ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้นถึงจะพบกับความยิ่งใหญ่ตระการตา วันนี้เราก็เลยพาทุกคนปักหมุดไปที่นี่กันค่า



ที่มา ของ แพะเมืองผี

     แพะเมืองผี หรือ วนอุทยานแพะเมืองผี ตั้งอยู่ที่ ตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากธรรมชาติสร้างขึ้นมา เป็นลักษณะของดินและหินทราย ที่ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติจนเกิดเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ ค่ะ ส่วนชื่อเรียกแพะเมืองผี นั้น ก็มาจากภาษาพื้นเมือง ซึ่งคำว่า แพะ แปลว่า ป่าละเมาะ ส่วนคำว่า เมืองผี แปลว่า เงียบเหงา วังเวง เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่ดูน่ากลัวนี้ เลยเป็นที่มาของการเรียกชื่อนี้นั่นเองค่ะ



ตำนาน แพะเมืองผี กองสลากไท

    ในส่วนของตำนาน แพะเมืองผี นั้น ก็มีที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อในอดีตบริเวณป่าแห่งนี้ เคยเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่และสัตว์ป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก และมีหญิงชราคนหนึ่งที่ชื่อว่า ย่าสุ่ม ได้เข้าไปหาอาหารในป่า แต่หลงป่าแล้วก็ไปพบหลุมที่เต็มไปด้วยเงินและทองคำ เลยได้นำเงินและทองคำนั้น ใส่ถุงแล้วเตรียมจะเอากลับบ้าน แต่ก็หลงป่าอีก ทำให้ไม่สามารถเอาหาบที่ใส่เงินและทองคำออกมาได้ จึงวางหาบเอาไว้ก่อน และหาไม้มาทำเป็นราวตามทางจนสามารถหาทางออกจากป่าได้ 

     เมื่อออกจากป่าไป ย่าสุ่มก็ได้กลับมาเล่าให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ฟัง และชวนกันเข้าไป แต่เมื่อถึงบริเวณที่ย่าสุ่มได้วางหาบเอาไว้ ก็ไม่พบเงินและทองคำเหลือแค่หาบเปล่าเท่านั้น ก็เลยช่วยกันค้นหาเงินและทองที่หายไป จนได้มาพบรอยเท้าคนเดิน เลยพากันเดินตามรอยเท้าไป จนมาถึงสถานที่ แพะเมืองผี ในปัจจุบันค่ะ

นักธรณีวิทยาคาดการณ์เอาไว้ว่าที่ แพะเมืองผี แห่งนี้ น่าจะเกิดขึ้นไม่ต่ำว่า 2 ล้านปีมาแล้ว ส่วนรูปร่างลักษณะต่างๆ ก็จะมีทั้ง รูปเหมือนดอกเห็ด หน้าผาต่างๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคนด้วยว่าจะมองออกมาเป็นรูปร่างอย่างไรค่ะ ในการเดินทางไปชมแพะเมืองผี นั้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ให้ขับตามถนนทางหลวงหมายเลข 101 ระหว่างจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน สักพักก็จะเจอทางแยกขวามือไป วนอุทยานแพะเมืองผี ค่ะ



ข้อมูล วนอุทยานแพะเมืองผี แพร่

ที่อยู่ : ตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.

โทร : –

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 


อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...