วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

พาไปชม พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ประเทศลาว

สวัสดีทุกคน วันนี้ สลากไทพลัส ร่วมกับ กองสลากไท ขอพาทุกคนไปชมความสวยงามแห่งหลวงพระบาง ณ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ซึ่งเคยเป็นพระราชวังเก่า เต็มไปด้วยความสวยงามและโดดเด่นของความเก่าแก่โบราณให้เราได้ไปเยี่ยมชม ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดนิทรรศการโบราณวัตถุ และ พระคู่บ้านคู่เมืองของที่นี่ นั่นคือ พระบาง นั่นเองค่ะ มาเที่ยวลาวครั้งนี้จึงตั้งไปไหว้สักการะกันสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการบอกกล่าวว่าเราได้มาที่นี่ด้วย



พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงพระบาง ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดี่ยวยกพื้นสูง สถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์

กองสลากไท : พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง มีอะไรบ้าง

ภายในมีจัดแสดงประวัติศาสตร์ อันเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1904 เพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ ลักษณะ เป็นศิลปะแบบลาวผสมฝรั่งเศส มีแผนผังเป็นรูปกากบาท และ สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น

หอพระบาง ตั้งอยู่ใน หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ซึ่งเคยเป็น พระราชวังหลวงเก่า ที่ประทับของ เจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง โดยสร้างเมื่อ พ.ศ.2447 ในสมัย สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ และสืบทอดต่อมาถึงสมัยของกษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว คือ  สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ซึ่งภายในหอพระนี้เองเป็นที่ประดิษฐาน พระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง พุทธลักษณะของพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนปางประทานอภัย ทั้งสองพระหัตถ์ หรือปางห้ามสมุทร เป็นศิลปะสมัยขอมหลังบายน มีน้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ประกอบด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์ และในหอพระนี้ยังมีพระพุทธนาคปรก สลักศิลาอีกสี่องค์และยังมีกลองโบราณอยู่ด้วย



ห้องโถงด้านหน้า ประดิษฐาน พระบาง องค์พระสูง 83 เซนติเมตร พระหัตถ์แสดงปางอภัยมุทรา หล่อขึ้นด้วยทองคำ บริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ รวมน้ำหนักทั้งสิ้นราว 43 ถึง 54 กิโลกรัม คามตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นที่เกาะสิงหลเมื่อราวศตวรรษ ที่ 1เจ้าฟ้างุ้ม ทรงได้รับพระราชทานจากกษัตริย์เขมรมาอีกต่อหนึ่ง แต่ก็ต้องตกไปอยู่ในเมืองสยามถึงสองครั้ง ปี 1779 และ 1827 จน ปี 1867 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานกลับคืน ไปให้ภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีต และงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อยที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุดคล บรรณาการจากต่างชาติ และ งานศิลปะมากมายและงานประดับกระเบื้องอยู่รอบ ๆ ตัวอาคาร

ห้องท้องพระโรง ใช้ทำพีธีราชาภิเษก ซึ่งเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาเตรียมห้องนี้ไว้ทำพิธีราชาภิเษก แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงปกครองเสียก่อน ภายในห้องติดประดับด้วยกระจกโมเสดสีแดงจากประเทศฝรั่งเศส


นอกจากห้องสำคัญเหล่านี้แล้วด้านหลังของท้องพระโรงยังเป็นที่ตั้งของตำหนักของเจ้ามหาชีวิตนั่นเอง

ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและของพระมเหสี ภายในห้องสวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวลาว ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพงานประเพณี และยังมีรูปหล่อครึ่งองค์ของเจ้ามหาชีวิตอุ่นคำ เจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ซึ่งทั้งหมดนี้หล่อมาจากประเทศฝรั่งเศสค่ะ ส่วนของพระมเหสี ภายในห้องจะจัดแสดงของขวัญจากประเทศต่าง ๆ รวมถึงยังมีห้องไว้สำหรับฟังธรรมของเจ้ามหาชีวิตอีกด้วย

สลากไทพลัส และ กองสลากไท ขอเชิญชวนสำหรับใครที่ไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบไกล ก็แนะนำให้เริ่มที่ประเทศลาวเลยค่ะ ไปง่าย สะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึงที่ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ที่รวบรวมเอาสิ่งที่ถูกสร้างไว้มาอย่างช้านาน พัฒนามาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ศึกษาหาความรู้กัน เรียกได้ว่ามาแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ



ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้ง : 27 Ounheun Rd, Luang Prabang, ประเทศลาว

อัตราการเข้าชม : 30,000 กีบ (ประมาณ 120 บาท)

เวลาทำการ : 08:00-11:30 น. และ 13:30-16:30 น.

หมายเหตุ : ภายในพระราชวังห้ามถ่ายรูปนะคะ

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 

www.สลากไทพลัส.com




อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...