วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ความเป็นของเขาคิชฌกูฏ รายงานโดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส


สลากไทยพลัส   จะมาเสนอเขาคิชฌกูฏและศาลาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์ 




 ยอด "เขาคิชฌกูฏ" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เขาคิชฌกูฏ ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ "รอยพระพุทธบาท" มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่ มีรอยลึกประมาณ 2 เมตรเศษ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. 

ที่มาของชื่อเขาคิชฌกูฏ

 ในตำนานศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่า เขาคิชฌกูฎอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธเป็นยอดเขาที่มีแนวเขาล้อมโดยรอบ และเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต เป็นความดำริของพระครูธรรมสรคุณซึ่งเป็นกรรมการและเป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวงตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ได้เสนอใช้ชื่อ พระบาทเขาคิชฌกูฎ (พลวง) เหตุผลเพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธที่พุทธศาสนาเจริญกว่าเมืองไหนๆ แม้กระทั่งประเทศอินเดีย

โดยสภาพภูมิประเทศคล้ายคลึงและบนยอดเขามีสิ่งศกดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวกับพระพุทธองค์ คือ รอยพระพุทธบาท และหินลูกบาตร ที่ตั้งข้างรอยพระพุทธบาท อยู่ในลักษณะคล้ายลอยอยู่ริมลานพระพุทธบาทฝั่งตรงข้ามหินลูกบาตรมีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้ และในหินก้อนนี้ ตรงข้ามกันรอยพระหัตถ์ มีรูปรอยเท้าใหญ่ (รอยเท้าพญามาร) ใต้พระบาทมีถ้ำตาฤาษี

จึงน่าจะใช้ชื่อนี้เป็นที่ระลึกถึงพระบรมศาสดา ในทุกๆ ปีจะมีพิธีเปิดและพิธีปิดการขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ พระครูธรรมสรคุณ ยังได้สอนว่า "เท้าของพระพุทธองค์ แม้ประดิษฐานอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่น เคารพกราบไหว้ด้วยใจ อธิษฐานแล้ว ย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคนและเป็รสิริมงคลแก่ผู้นั้นตลอดไป"

แต่ต้องตั้งจิตอธิษฐานให้ดี ปราถนาสิ่งใดที่ดีที่ชอบขอได้ตามความพอใจ กลับไปจะมีแต่ความปลอดภัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและเทพยดาที่รักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จะอำนวยอวยพรให้ท่านได้รับแต่ความสขตามสมบูรณ์พูลผล ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป

ซึ่งผู้อยากจะขึ้นไปสักการะบูชาสิงศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขานั้นจะต้องมีจิตศรัทธาที่แรงกล้า เนื่องจากต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม. ท่ามกลางผู้คนที่มีศรัทธาเดียวกันมากมายที่เบียดเสียด เพราะการจะขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี หรือช่วงช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม (ในปี 2565 นี้ คือระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ - 1 เมษายน 2565) หรือแค่ประมาณ 2 เดือนต่อปีเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากพุทธศาสนิกชนมากมายจากหลายที่ต่างถิ่น จะพร้อมใจกันมาสักการะบูชาแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าประทับรอยพระพุทธบาทไว้ จะได้อานิสงส์แรงกล้า เปรียบได้กับการได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่

ปัจจุบันได้มีการจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ เพื่อไปสักการะบูชารอยพระพุทธบาทจนกลายเป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูง และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก...ในอดีตจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา แต่ในปัจจุบันมีรถบริการให้ประชาชน ได้เดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น 


เรื่องเล่าความลี้ลับของผู้ที่หลบหลู่ความศักดิ์สิทธิ์ของเขาคิชฌกูฏ ที่จังหวัดจันทบุรี

พระครูธรรมสรคุณ (ท่านพ่อเขียน) เล่าว่า "พวกที่ไปด้วยไม่ศรัทธาจะถูกรุกขเทวดาที่ปกปักรักษารอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏลงโทษบ่อย ๆ ทุกปี" ดังกรณี ปี 2513  มีชนศาสนาอื่นมาจากจังหวัดระยองขึ้นเขาพระบาทเพื่อไปเที่ยวสนุกกับเพื่อน เพื่อนๆพากันนมัสการรอยพระพุทธบาท แต่เขาไม่และหัวเราะเยาะเพื่อนว่า หลงไปกราบหิน กราบรอยอะไรก็ไม่รู้ และไม่ถอดรองเท้าเมื่อเข้าไปลานพระพุทธบาท เขารู้สึกง่วงไปนอนบนลานหินทางทิศใต้ของรอยพระพุทธบาทและหลับไป และผันว่าวิ่งลงมาจากที่สูงแต่ที่จริงใช้หลังวิ่งกลิ้งลงไป หัวกระแทกหินแตกหลายแผล สลบไปหลายชั่วโมง

อีกรายหญิงสาววัยรุ่นไม่เคารพปูชนียสถานเข้าไปลานพระพุทธบาทโดยไม่ถอดรองเท้า ขณะนั้นเองค์เทวดาที่รักษาองค์พระพุทธบาท บัลดาลให้ลมพัดอย่างแรง พัดพาร่างหญิงสาวปลิว ทรงกายไม่อยู่เสียหลักไปชนหินสลบไป

สองกรณีเป็นเรื่องเกิดขึ้นนานแล้ว แต่ยังมีผู้ไม่รู้และไม่ศรัทธายังลบหลู่ปูชนียสถาน นึกว่าเป็น "ที่ท่องเที่ยว" ขึ้นไปลานพระพุทธบาทเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งทำให้เกิดผลร้ายอยู่เนื่องๆ ขึ้นไปถึงลานพระพุทธบาทจงทำแต่ความดีทั้งกายใจและจิตส่งกระแสไปยังพระพุทธองค์อุปมาเหมือนท่านยังทรงมีชีวิต ประทับอยู่ต่อหน้าผู้ไปนมัสการ 




ข้อปฏิบัติในการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ

ไหว้พระบาทจำลอง ที่ต้นศรีมหาโพธิ์

ขึ้นศาลาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์ ปิดทองรูปใด ขอพรขอบารมีรูปนั้นให้ครบ 9 ครั้ง

จุดเทียนธูป หน้าห้องกระจก ตั้งสัจจะขอในสิ่งที่เราต้องการต่อหน้าสังขาร พระครูพุทธบทบริบาร (หลวงพ่อนัง)

ประพรมน้ำพุทธมนต์ ให้เป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเขา

ตั้งสัจจะ ขอที่พระอภิบาลมงคลพุทธไสยาสน์

จุดเปลี่ยนรถที่ 1 ไหว้เจดีย์กลางเขา เจ้าแม่กวนอิม, พระพรหม, พระพิฆเนศวร, แม่โพสพ, บาตรแห่งมหาโชคลาภ

เปลี่ยนรถที่ 2 ไหว้พระสิวลี พระแม่ธรณีบีบมวยผมพระนอน, พระมาลัย

ท้าวเวสสุวรรณ, ท้าวพิเภก, พระพิฆเนศวร, แม่ธรณีบีบมวยผม แล้วเคาะระฆัง 2 ข้างทาง

สิ่งมหัศจรรย์ รอยเสือใหญ่, รอยกวางทอง, พระศิวะ, พระนาคปรก

จุดพักขึ้นประตูสวรรค์ ไหว้พระป่าเรไร, ถวายสังฆทาน, ไหว้พระพรหม แล้วเคาะระฆังขึ้นสวรรค์

ไหว้หมอชีวกโกมารภัทร, ฆ้อง, ธรรมจักร, นมัสการรอยพระบาท, เจ้าแม่กวนอิม, ท้าวมหาพรหมวิหาร(กองอำนวยการ)

ลานอินทร์ เป็นลานที่พระอินทร์ลงมาประทับที่สถานที่แห่งนี้ เลยนำรูปท่านมาประดิษฐานไว้ที่นี่ และมีผู้อธิษฐานขอแล้วประสบความสำเร็จในเรื่องเนื้อคู่, ที่อยู่อาศัย, ไหว้เทพเทวดา, สักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ, พระปิยมหาราช, สมเด็จพระพุฒาจารย์โต (พรหมรังษี) ด้านข้างเป็นจุดชมวิวสวยงามมากเป็นหุบเขาที่เขียวชอุ่ม มีเขื่อนเก็บน้ำ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

นมัสการพระสิวลี, พระพิฆเนศวร

ปิดทอง ขอพรจากลูกแก้วสารพัดนึก

สักการะบาตรพระอานนท์ (บาตรใหญ่) ลานบายศรี เป็นที่บูชาเทพ

สักการะบาตรพระสิวลี บาตรแห่งความร่ำรวย

ไหว้แม่นางตะเคียน ให้โชคให้ลาภ

ลานพรหมบรรทม เป็นสถานที่พระพรหมบรรทม ควรไหว้พระและสวดมนต์บูชาพระพรหมบาตรพระโมคคัลลานะ อยู่ใกล้กับลานพรหมบรรทม

บาตรพระสารีบุตร และผ้าแดง เป็นสถานที่เดียวกับผ้าแดง ให้เขียนชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่บนผ้าแดงแล้วอธิษฐานจิตตามปรารถนาค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...