วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

พาชม อุทยานธรณีสตูล อุทยานธรณีโลกแห่งแรกของโลก

สวัสดีทุกคน วันนี้ สลากไทพลัส ร่วมกับ กองสลากไท ขอพาทุกคนไปพาชม อุทยานธรณีสตูล อุทยานธรณีโลกแห่งแรกของโลก อุทยานธรณียังครอบคลุมไปถึงวิถีชีวิต ผู้คน วัฒนธรรม และธรรมชาติอื่น ๆ ในอาณาบริเวณเดียวกันด้วย โดยพื้นที่ซึ่งจะประกาศให้เป็นอุทยานธรณีนั้นอาจจะครอบคลุมแหล่งชุมชน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผืนป่า หรือท้องทะเลได้ทั้งสิ้น ขอเพียงแต่ให้สิ่งที่เป็นองค์ประกอบเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน เพราะขอบเขตพื้นที่เป็นเพียงการประกาศให้รู้ว่าพื้นที่ตรงไหนที่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรณี




สำหรับอุทยานธรณีสตูลนั้น ได้ประกาศขอบเขตพื้นที่คลุมใน ๔ อำเภอของจังหวัดสตูล คือ อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอละงู และบางส่วนของอำเภอเมืองฯ โดยประกาศคลุมพื้นที่ของ ๒ อุทยานแห่งชาติไปด้วย คือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตาและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา โดยมีที่ทำการอุทยานธรณีสตูลอยู่ในบริเวณเดียวกันกับองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหว้าและที่ว่าการอำเภอทุ่งหว้านั่นเอง




กองสลากไท : ประวัติความเป็นมาของ อุทยานธรณีสตูล

โดยแต่เดิมพื้นที่อำเภอทุ่งหว้าเป็นแค่อำเภอทางผ่านของผู้คนที่เดินทางมาจากอำเภอละงูเพื่อจะไปตัวเมืองสตูล แม้ว่าในอดีตทุ่งหว้าจะเคยเป็นเมืองท่าชื่อเมืองสุไหงอุเป ที่พ่อค้าทางเรือจะนำเรือล่องเข้ามาตามปากแม่น้ำเพื่อขายสินค้าที่บรรทุกมา พร้อมกับรับซื้อสินค้าทางการเกษตรลงเรือไปค้าขายต่อ แล้วก็เช่นเดียวกับเมืองท่าติดทะเลทั้งหลาย ที่นานวันเข้าก็สร้างโกดังเก็บสินค้าจนกระทั่งลงหลักปักฐาน จนอำเภอทุ่งหว้าเป็นอำเภอหนึ่งที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยกันอยู่มาก โดยปลูกสร้างตึกแถวลักษณะสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “โคโลเนียลสไตล์” อยู่กันเป็นแถวเรียงรายริมถนนสายสำคัญในย่านชุมชนทุ่งหว้า

แต่ทุ่งหว้าก็หลีกไม่พ้นความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยไปได้ เมื่อหมุดหมายปลายทางของคนมาสตูลคือลงไปเที่ยวเกาะตะรุเตา ถนนที่เชื่อมจากอำเภอหาดใหญ่สู่รัตภูมิและอำเภอละงู เพื่อลงเรือไปหลีเป๊ะ ตะรุเตา ได้ตัดอำเภอทุ่งหว้าและตัวจังหวัดสตูลออกจากเส้นทางโดยสิ้นเชิง

ชุมชนอาคารร้านค้าที่เคยคึกคักจากการค้าขายทางเรือกลับเงียบเชียบ อาคารโคโลเนียลหลายแห่งถูกรื้อถอนเพื่อปลูกสร้างอย่างอื่น บ้างก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ปัจจุบันคงหลงเหลืออยู่ไม่มากในย่านสี่แยกตลาดทุ่งหว้า เพื่อยืนยันว่าทุ่งหว้าในอดีตไม่ได้เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนแต่อย่างใด หากเคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อนเช่นกัน จนกระทั่งการค้นพบที่นำมาสู่การจัดตั้งเป็น อุทยานธรณีสตูล ที่ทำให้ชื่อของอำเภอทุ่งหว้าหวนกลับมาเป็นที่รับรู้ของผู้คนอีกครั้งหนึ่ง สลากไทพลัส กองสลากไท



แหล่งท่องเที่ยวใน อุทยานธรณีสตูล

แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่อุทยานธรณีสตูลนั้น มีความโดดเด่น มีความหลากหลายค่อนข้างมาก ทั้งทางธรรมชาติที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรณี แล้วมีการทำกิจกรรมศึกษาธรรมชาติ ทั้งการนั่งเรือยางเข้าเที่ยวชมถ้ำลอดวังกล้วย ซึ่งตั้งชื่อใหม่ว่าถ้ำเลสเตโกดอน ตามชื่อช้างสเตโกดอนที่พบฟันกรามในถ้ำ และเป็นที่มาของการสำรวจและจัดตั้งอุทยานธรณีสตูล จนกระทั่งไปถึงระดับขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกให้เป็นอุทยานธรณีโลกทางธรณี

ถ้ำเลสเตโกดอน เป็นถ้ำลอดขนาดใหญ่ที่ยาวนับกิโลเมตร ใช้เวลาล่องนานร่วม ๓ ชั่วโมง นอกจากความสวยงามของหินย้อยและปรากฏการณ์ถ้ำต่าง ๆ ภายในแล้ว ยังมีฟอสซิลสัตว์โบราณ เช่น นอติลอยด์ ปรากฏตามเพดานถ้ำหลายแห่ง ครั้นออกมานอกถ้ำ นั่งเรือมาจนถึงท่าน้ำอ้อย ที่เป็นเหมือนสวนสาธารณะของอำเภอทุ่งหว้า ยังสามารถลงเรือไปดูแนวสันทรายที่เรียกว่า “สันหลังมังกร” ช่วงทะเลเปิดรอยต่อกับจังหวัดตรังได้ด้วย

ถ้ำเจ็ดคต ที่แม้จะสั้นกว่าถ้ำเลสเตโกดอนหลายเท่า แต่ความสวยงามนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใด ทั้งยังมีกิจกรรมล่องแก่งวังสายทอง หรือเที่ยวน้ำตกวังสายทองที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ด้วย

ภูผาเพชรสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชนเผ่ามันนิ หรือซาไก ที่อาศัยสร้างเพิงและกระท่อมในชายป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดได้ พวกเขายังมีวิถีชีวิตดั้งเดิม มีแต่เพียงใส่เสื้อผ้าแล้วเท่านั้น กระท่อมที่อยู่อาศัยไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก

ที่มา : https://thai.tourismthailand.org/Article

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...