วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

กองสลากไท ร่วมกับ สลากไทพลัส พาเที่ยว วัดแจ้ง

วัดแจ้ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ กองสลากไท และ สลากไทพลัส ทราบมาว่า ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับวัดโพธิ์ เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดแจ้ง ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดเกล้าฯ กำหนดให้ วัดแจ้ง เป็นวัดในเขตพระราชฐาน และสถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อบูรณะแล้วเสร็จได้พระราชทานนามว่าวัดอรุณราชธาราม ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการก่อสร้างพระปรางค์องค์ใหญ่ ความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร เสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดอรุณราชวราราม ดังที่เรียกในปัจจุบันนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ค่าเข้าชม คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 100 บาท




วัดแจ้ง

ประวัติของ วัดแจ้ง จาก กองสลากไท

วัดแจ้ง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 40 ไร่

วัดแจ้งตั้งเมื่อ พ.ศ. 2391 ที่มาของชื่อวัดสืบเนื่องจากเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นำทัพเดินทางกลับจาราชการสงครามที่ประเทศกัมพูชา เมื่อเดินทางถึงบริเวณที่วัดแจ้งก็สว่างดี จึงให้ทหารพักผ่อนที่บริเวณนี้ ต่อมาได้ทำการสร้างวัดขึ้นและได้อัญเชิญพระพุทธรูปที่นำมาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งพบ ณ เจดีย์เก่าแก่พุพัง มีต้นโพธิ์ ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุม มาประดิษฐานไว้ในอุโบสถ นามว่า หลวงพ่อเพชร ได้สร้างกุฏิให้อาจารย์เป็นพระภิกษุเขมรที่ติดตามกองทัพมา ให้อาจารย์เป็นผู้ดูแลรักษาวัดในตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2499 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 11 เมตร ยาว 29 เมตร

พุทธลักษณะของ หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ เกศเป็นเกศบัวตูม นั่งขัดสมาธิเพชร คือ พระบาท (เท้า) ทั้งสองไขว้กัน ฝ่าพระบาทเกี่ยวกระหวัดมองเห็นชัดทั้งสองข้าง พระหัตถ์ (มือ) ขวา ห้อยบนพระชานุ (เข่า) ด้านขวา พระหัตถ์ซ้ายวางอยู่บนหน้าตัก เป็นพระพุทธรูปปางสดุ้งมารหรือปางมารวิชัย สันนิษฐานว่าเป็นพระสร้างสมัยเชียงแสน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารแบบล้านนา

พระธาตุวัดแจ้งปราจีนบุรี รูปทรงคล้ายพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม และศาลาวิปัสสนา ภายในศาลาประดิษฐานสรีระอดีตเจ้าอาวาส (หลงปู่ทัต) ตั้งอยู่กลางสระน้ำ อุโบสถมีขนาดกว้าง 11 เมตร ยาว 29 เมตร สร้างเมื่อพ.ศ. 2494 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก



ยักษ์วัดแจ้ง

เปิดให้เยี่ยมชมและสักการะ ทุกวัน เวลา 07:00 น. – 18:00น.

ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเยี่ยมชม

ยักษ์วัดแจ้ง

สิ่งแรกที่เราสองคนทำคือ เดินตรงเข้าไปไหว้พระที่โบสถ์ ระหว่างหน้าประตูโบสถ์จะพบกับยักษ์ 2 ตน คือฝั่งซ้ายมือเป็น ทศกัณฐ์และ ซ้ายมือคือ ท้าวสหัสเดชะ2 พญายักษ์จาก มหากาพย์เรื่อง รามเกียรติ์ยืนถือกระบอง เฝ้าหน้าชุ้มประตูทางเข้าอยู่ อย่างน่าเกรงขาม



พระอุโบสถ

เดินผ่านซุ้มประตูเช้ามา จะพบ พระอุโบสถ ของวัด ภายใน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางค์มารวิชัย ชื่อ พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลกซึ่งช่วงเวลาที่ผมไป พระสงฆ์ทำ สังฆกรรมกันอยู่จึงได้แค่เก็บบรรยากาศภายนอกมาฝากเพื่อนๆกันคราฟฟฟฟฟวัดแจ้ง

พระปรางค์วัดอรุณ

เดินออกมาจากพระอุโบสถ ขวามือจะเห็นพระปรางค์ องค์ใหญ่ ลักษณะเดียวกับหลังเหรียญ 10 บาทไทย ลักษณะเป็นปรางค์ย่อมุม สูงใหญ่ มีปรางค์บริวารล้อมรอบ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบกับพื้นปรางค์องค์สีขาว มีสัตว์หิมพาน วานรจากเรื่องรามเกียรติ์ พระอินทร์ ฯลฯ ประดับประดา อยู่เรียงราย สามารถให้นักท่องเที่ยว ขึ้นไปด้านบนได้ด้วยนะ

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม
ติดต่อทาง  LINE : @ S L T P 7 8 9 



อ่านบทความเพิ่มเติมของสลากไทพลัส




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...