วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566

ประวัติความเป็นมาของวัดโฝวกวงซัน โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

 สลากไทพลัส จะมาเสนอความเป็นมาวัดโฝวกวงซัน ก่อตั้งขึ้นภายใต้การนำของพระคุณเจ้า พระเถระซิงหวิน เมื่อ พ.ศ. 2510 ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาให้แพร่หลายไปทั่วโลก โดยยึดหลักให้การศึกษาในการพัฒนาบุคคล สืบสานวัฒนธรรมในการประกาศพุทธธรรมคำสอน บำเพ็ญกุศลในการช่วยเหลือพัฒนาสังคม เน้นการปฏิบัติธรรมในการจรรโลงซึ่งจิตใจ โดยขยายการพัฒนาไปสู่ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยผ่านวัดสาขากว่า 200 แห่งทั่วโลก




ความเป็นมาของ สถาบันพุทธศาสนา เถรวาท-มหายาน หรือ วัดโฝวกวงซัน เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ก่อตั้งขึ้นภายใต้การนำของพระคุณเจ้า พระเถระซิงหวิน เมื่อ พ.ศ. 2510 ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาให้แพร่หลายไปทั่วโลก โดยยึดหลักให้การศึกษาในการพัฒนาบุคคล สืบสานวัฒนธรรมในการประกาศพุทธธรรมคำสอน บำเพ็ญกุศลในการช่วยเหลือพัฒนาสังคม เน้นการปฏิบัติธรรมในการจรรโลงซึ่งจิตใจ โดยขยายการพัฒนาไปสู่ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยผ่านวัดสาขากว่า 200 แห่งทั่วโลก

ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพหลายองค์ให้ไปกราบไหว้ขอพร เมื่อเดินเข้าไปบริเวณวัดจะเห็นประตูวัดขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวที่มายังแห่งนี้จะต้องไม่พลาดถ่ายรูปกับประตูสูงเด่น ด้านข้างมีพระศากยมุนีหยกขาวให้กราบไหว้ก่อนเดินเข้าไปด้านใน

เมื่อก้าวบันไดสู่ทางเข้าด้านในจะเป็นโถงรับรอง จะพบกับ “ไมตรียกุมารสต" (พระศรีอริยเมตไตรย 100 กุมาร) ซึ่งวัดในจีนมักจะประดิษฐานองค์พระศรีอริยเมตไตรยไว้ที่ประตูบรรพตทางด้านหน้า เนื่องจากด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของท่านนั้น เพื่อคอยต้อนรับพุทธศาสนิกชน รวมถึงเพื่อการอยู่รวมกันอย่างสงบสุข นำไปสู่โชคลาภความเจริญรุ่งเรือง




และบริเวณด้านข้างทั้งสองฝั่งคือ “ท้าวจตุมหาราชา” หรือเรียกกันว่า “มหาจตุวัชระ” โดยตามคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนานั้น ทรงเป็นธรรมบาลผู้พิทักษ์รักษาคุ้มครอง ซึ่งตามคติทางพระพุทธศาสนานั้น ในจตุรทิศทรงมีธรรมบาลคอยพิทักษ์คุ้มครองรักษาอยู่โดยรอบ ซึ่งในพุทธวิหารตามวัดวาอาราม จะสร้างเป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ ประดิษฐานไว้บริเวณประตูบรรพตทางเข้าเบื้องหน้า โดยแยกประดิษฐานอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวา

หลังจากเดินเข้าไปภายในวัด จะเห็นบรรยากาศโดยรอบดูกว้างขวางและงดงาม เพราะที่นี่ได้ออกแบบพุทธวิหารทั้งหมดเป็นศิลปะแบบจีน ประกอบไปด้วย วิหารกลาง วิหารพระอวโลกิเตศวร ห้องวิปัสสนา หอฉัน ห้องเรียนพุทธศาสนา ห้องประชุม เรือนรับรอง (ห้องพักของสาธุชน) หอพระไตรปิฎก (ห้องสมุด) เป็นต้น ทุกรายละเอียดของวัดถูกประดับตกแต่งได้อย่างสวยงาม เป็นการเดินชมวัดที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจในทุกความยิ่งใหญ่และงดงาม

จากโถงรับรองเดินผ่านลานกว้างเพื่อมุ่งสู่วิหารกลาง ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นศูนย์กลางของทุกสายตาของผู้มาเยือน ด้านหน้าของวิหารกลางแกะสลักเป็นรูปมังกรสีขาวอ่อนช้อยวิจิตรงดงาม ระหว่างเดินขึ้นไปยังด้านในจะมองเห็นเจ้าแม่กวนอิมสีทองอร่ามองค์ใหญ่อยู่ใกล้กับวิหารกลาง

ด้านในของวิหารกลางจะมีองค์พระ 3 องค์ เปรียบเสมือนเป็นองค์พระประธานของวิหารนี้ ริมผนังโดยรอบจะมีช่องขนาดต่างๆ วางองค์พระหลากหลายขนาดประดับอยู่ ส่วนริมผนังด้านนอกตกแต่งด้วยแผ่นกระเบื้อง ฐานวิหารเป็นเป็นหินแกะสลักรูปดอกไม้สวยงาม เมื่อเดินชมรอบวิหารจะพบกับวิหารพระกษิติครรภ์และวิหารพระศากยมุนีตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง

นอกจากนี้ยังมีหอระฆัง (คัณฑฆระ) ซึ่งอารามที่มีขนาดใหญ่บางแห่งในจีน จะมีการหล่อสร้างระฆังให้มีขนาดใหญ่ และมีปริมาณน้ำหนักมาก โดยจะสร้างอาคารเพื่อสำหรับการแขวนระฆังขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เรียกว่า หอระฆัง (คัณฑฆระ) โดยจะตั้งอยู่ทางด้านขวาของ “มหาวีระรัตนอุโบสถวิหาร” หากวัดหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ หอระฆังจะอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนหอกลองจะตั้งอยู่ทิศตะวันตก ซึ่งระฆังและกลองจึงถือเป็นเครื่องอุปกรณ์ดุริยางคธรรม ที่ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเพื่อบอกกล่าวเวลา ตามช่วงขณะในกิจวัตรต่างๆ ของพระสงฆ์ในอาราม และบางครั้งเมื่อมีพระอาคันตุกเถระได้ธรรมยาตรามาเยือน ก็จะต้องมีการเคาะระฆังตีกลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลถวายการต้อนรับที่ธรรมยาตรามาเยือน เป็นต้น




อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ “วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” หรือบริเวณองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีทองตั้งสูงสง่างาม รวมถึงมีรูปปั้นเทพจีนประดับอยู่รอบๆ ภายในเป็นห้องแอร์ มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ตรงกลางวิหาร ทั้ง 4 ปาง ได้แก่ ปรางค์ประธานบุตร ปางประทานพร ปางประทานทรัพย์ และปางประธานโชคลาภ

บริเวณด้านนอกของวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ จะประดับตกแต่งเป็นสวนสวยขนาดย่อม ให้ผู้มาเยือนได้มาเดินผ่อนคลายหรือถ่ายรูปกับบรรยากาศอันงดงามของบริเวณวัดไทยสไตล์ไต้หวันแห่งนี้

นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ ที่สวยงาม น่าไปเช็คอินในช่วงวันหยุด นอกจากเราจะได้สักการะสะสมบุญ ถ่ายรูปภาพสวยๆ แล้ว ยังได้ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมที่งดงามโดยที่ไม่บินไปไกลถึงไต้หวันอีกด้วย

สลากไทพลัส 80 บาททุกใบไม่มีบวกเพิ่ม ถูกรางวัลรับเต็ม

ติดต่อทาง LINE:@STPLUS

www.สลากไทพลัส.com




อ่านบทความเพิ่มเติมของ สลากไทพลัส

ประวัติความเป็นมาของวัดโบสถ์ โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

ประวัตอความเป็นมาของวัดพระศรีอารย์ โดยสลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

ประวัติความเป็นมาของวัดบางกุ้ง โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

ประวัติความเป็นมาของวัดถ้ำพุหว้า โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...