สลากไทพลัส จะมาเสนอประวัติของวัดพระศรีมหาโพธิ์ได้ก่อตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2450
ประวัติ
วัดศรีมหาโพธิ์ เดิมชื่อ วัดโพธิ์ศรี ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2450 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2462 วัดมีความเจริญช่วงขุนหว้านวิรุฬคาม (คี เมืองโคตร) เป็นกำนัน ได้สร้างโบสถ์ (สิม) ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2459 ได้สร้างกุฏิสงฆ์ เป็นอาคารเก่าทรงยุโรป เมื่อ พ.ศ. 2467 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2470 สร้างโดยชาวญวนซึ่งอพยพมาบวชที่วัดนี้แล้วไม่มีที่อยู่อาศัย บ้างระบุว่าผู้สร้างชื่อ หัสดี จากฝั่งประเทศลาวซึ่งมาบวชที่วัดแห่งนี้ บ้างกล่าวว่าแรกสร้างจะใช้เป็นกุฏิสงฆ์ อย่างไรก็ตามอาคารนี้เคยใช้เป็นที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2520 ดังที่ปรากฏรูปครุฑปูนปั้นอยู่หน้าบันของอาคาร กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 115 ตอนพิเศษ 4ง วันที่ 14 มกราคม 2541 ระวางแนวเขตโบราณสถานพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 55.79 ตารางวา
อาคารและเสนาสนะ
สิมตั้งอยู่บนฐานบัวคว่ำเตี้ย ๆ มีบันไดทางขึ้นตรงกึ่งกลางด้านหน้า นหลังคาเป็นเครื่องไม้ ทรงจั่ว มีปึกหลังคายื่นคลุมตัวอาคารทั้ง 4 ด้าน หลังคามุงสังกะสี ส่วนหน้าเป็นพาไล เหนือผนังทำช่องหน้าต่างไม้ เหนือกรอบหน้าต่างทำช่องลมไม้จรดขื่อหลังคา ห้องท้ายสุดก่อผนังปิดทึบจรดขื่อ ระหว่างช่วงเสาทั้งสองด้านเป็นช่องแสงลูกมะหวด ช่องแสงประดับลวดลายปูนปั้นหน้าบุคคล ผนังมีภาพจิตรกรรมเรื่องพระเวสสันดรชาดก และภาพเหตุการณ์ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจหัวเมืองในมณฑลอีสานประทับทั่งอยู่บนเกวียน[2] พระประธานในอุโบสถเป้นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
กุฏิทรงยุโรป หลังคาหน้าจั่ว หน้าบันประดับรูปครุฑตามที่เป็นสถานที่ราชการ ตัวอาคารเป็นทรงตึกฝรั่ง 2 ชั้น มีแผนผังเป็นรูปตัวที (T) ด้านหน้าหันไปทิศตะวันออกทำเป็นมุขยื่นออกมา ชั้นล่างยกพื้นเตี้ย ส่วนหน้าเป็นโถงโล่ง มีบันไดทางขึ้นด้านหน้าและทั้งสองปีกซ้ายขวา ส่วนหลังกั้นเป็นห้อง ระหว่างช่องเสาทำเป็นซุ้มวงโค้ง (arch)[1] หน้าอาคารมีรูปสิงห์ 2 ตัว ตั้งอยู่
อ่านบทความเพิ่มเติม ของ สลากไทพลัส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น