วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566

ประวัติความเป็นมาของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

สลากไทพลัส จะมาเสนอประวัติความเป็นของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน



วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน

เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และหลายท่านคง รู้จักกันดีเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวไปกันเยอะตลอดทั้งปี ทั้งคนไทยและต่างชาติโดยเฉพาะ คนต่างชาติให้ความสำคัญมากมาเมืองไทยต้องมาชมพระนอนวัดโพธิ์ ที่มีความงดงามและ มีขนาดองค์ใหญ่เป็นที่หาชมยากของคนต่างชาติ วัดโพธิ์ ยังเป็นโบราณสถาน ที่มีพระพุทธรูป เก่าแก่รอบโบสถ์ ที่มีความสวงามและหาชมยาก

ประวัติโดยย่อ วัดโพธิ์ หรือนามทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง และที่ใต้พระแท่นประดิษฐาน พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย



พระนอนวัดโพธิ์สร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 คราวบูรณะวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร โดยทรงมีพระราชดำริว่า พระพุทธรูปปางสำคัญได้สร้างขึ้นในวัดนี้หลายปางแล้ว ขาดแต่ปางไสยาสน์เท่านั้น จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระปางไสยาสน์องค์นี้ขึ้น โดยงานพุทธศิลป์พระพักตร์ที่โดดเด่น และฝีมือของการฝังมุกที่พระบาทขององค์พระ ทำให้ได้รับการยกย่องว่าองค์พระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของช่างทองที่ยากหาใครเสมอเหมือนแห่งศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น



พระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ นามว่า พระพุทธเทวปฏิมากร ที่ฐานชุกชีก่อไว้ 3 ชั้น ชั้นที่ 1 บรรจุพระบรมอัฐิและพระราชสรีรังคารรัชกาลที่ 1 ไว้ ชั้นที่ 2 ประดิษฐานรูปพระอัครสาวกทั้งสององค์ฐานชุกชี ชั้นล่างสุดประดิษฐาน พระมหาสาวก 8 องค์ (พระอรหันต์ 8 ทิศ)




พระพุทธเทวปฏิมากร

พระระเบียง เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่สร้างล้อมรอบพระอุโบสถ มีอยู่ 2 ชั้น ทั้งสองชั้นเชื่อมต่อด้วยพระวิหารทิศอยู่รอบพระอุโบสถทั้งสี่ทิศ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญ และสร้างพระวิหารไว้ประจำสี่ทิศ

เขามอ หรือสวนหย่อม เป็นสวนหินปลูกไม้ประดับที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้รื้อขนก้อนศิลาใหญ่ และเล็กซึ่งก่อเป็นภูเขาในสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง แต่ครั้งรัชกาลที่ 2 มาก่อนเป็นภูเขาเป็นสวนประดับรอบวัด ปลูกต้นไม้ไว้ตามเชิงเขาและบนเขา มีทั้งสถูปและเสาโคมแบบจีน รูปตุ๊กตาจีนและรูปสัตว์จัตุบาท (สัตว์สี่เท้า) ต่างๆ เรียงรายอยู่ทั่วไปทั้งบนเขา และเชิงเขา เขามอมีทั้งหมด 24 ลูก เช่น เขาประดู่ เขาสะเดา เขาอโศก เขาสมอ เขาฤาษดัดตน เขาศิวลึงค์ เป็นต้น พรรณไม้ที่ปลูกประดับส่วนใหญ่ตายลงทางวัดได้ปรับปรุงเป็นสวนหิน ประดับด้วยไม้ดอกไม้ใบนับเป็นมุมนั่งพักผ่อนที่เพลิดเพลินตาเย็นกายสบายใจ


พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑-๔ ประดิษฐานอยู่ในกำแพงแก้วสีขาว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...