วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566

ประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุศรีสองรัก โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

สลากไทพลัส จะมาเสนอประวัติของวัดพระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106




พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อ เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)

กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบต หัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยทองสัมริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว

ทุกวันขึ้น 15 เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ"ลูกผึ้งลูกเทียน" จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี




พระธาตุศรีสองรัก กับตำนานที่น่ารู้

แวะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่สำคัญของ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย นั้นคือ พระธาตุศรีสองรัก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2103 สมัยกรุงศรีอยุธยา  ถือว่าเก่าแก่มากครับ เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือกันระหว่างพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา(ไทย) และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง(ลาว) เนื่องจากยุคนั้นพม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ  กษัตริย์ทั้งสองพระองค์จึงเห็นว่าควรจับมือกันเพื่อความมั่นคง จึงได้กระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน พร้อมได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ขึ้นถวายมีพระนามว่า“พระธาตุศรีสองรัก”  ริมลำน้ำหมัน เป็นดังสักขีพยานแห่งสัจจะไมตรี และจะมีการจัดงานสมโภชพระธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี

ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ที่จะมาสักการะพระธาตุศรีสองรักต้องสำรวจตนเองสักหน่อยครับ เค้าห้ามใส่เสื้อผ้า "สีแดง" หรือถือสิ่งของที่มีสีแดงเข้าไปบริเวณองค์พระธาตุ  เพราะ "สีแดง" อาจเปรียบได้กับ "เลือด" ที่เป็นผลของการทำสงคราม ดังนั้น คนโบราณจึงมีการห้ามไม่ให้ผู้ที่สวมเสื้อผ้าสีแดง เข้าไปบริเวณองค์พระธาตุ จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมาจนถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน

เมื่อเดินทางมาถึงพระธาตุศรีสองรักจะพบกับกับทางเดินทอดยาวไป เบื้องหน้ามีเสาสูงประมาณอกเรียงรายนำไปสู่บันได สูงขึ้นไปจะเห็นยอดเจดีย์พระธาตุศรีสองรักสีขาวสง่าที่ตั้งอยู่หลังมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก สร้างด้วยศิลา และในส่วนขององค์พระพุทธรูปสันนิษฐานว่า สร้างด้วยทองสัมริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว โดยหลวงพ่อไกรสีห์จะเปิดให้นมัสการในโอกาสสำคัญ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการปิดทอง 1 ครั้ง โดยจะทำก่อนวันงานสมโภชและนมัสการพระธาตุศรีสองรัก 1 วัน

นอกจากนี้ยังมีตำนานความเชื่ออื่นๆ ที่กล่าวไว้ว่า พระธาตุศรีสองรักมี “นายมั่นนายคง” ยอมอุทิศชีวิตเป็นข้าคอยเฝ้าไปชั่วนิรันดร์ และตำนานเรื่องเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียมว่า เป็นวิญญาณของชาย-หญิงที่ถูกกีดกันในความรักและมาเสียชีวิตลงที่พระธาตุแห่งนี้ ซึ่งทั้งคู่หนีเข้าไปในอุโมงค์ตอนก่อสร้างองค์พระธาตุ แต่ว่าช่างไม่รู้จึงได้ก่อสร้างปิดอุโมงค์จนทั้งสองเสียชีวิตกลายเป็นวิญญาณที่คอยเฝ้าปกปักรักษาองค์พระธาตุศรีสองรักมาจนถึงทุกวันนี้

จากตำนานมาถึงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุกันบ้าง พระธาตุองค์นี้เป็นศิลปกรรมแบบล้านช้างก่ออิฐถือปูนองค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังทรง "บัวเหลี่ยม" คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง(เวียงจันทน์) พระธาตุศรีโคตรบอง(แขวงคำม่วน) และอีกมากมายแถบลุ่มน้ำโขง พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) แต่ก็มีหลายคนเชื่อว่ากษัตริย์ทั้งสองพระองค์น่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระพุทธรูป พระธรรมคัมภีร์บรรจุไว้ตามความเชื่อในศาสนาพุทธ

รอบบริเวณองค์พระธาตุมีการปูพรมไว้รอบพระธาตุเพื่อให้ผู้ศรัทธาสามารถเดินอธิฐานรอบๆ พระธาตุ ได้  และบริเวณโดยรอบยังร่มรื่นไปด้วยต้นลั่นทมหรือลีลาวดีมีดอกสีขาวเข้ากับบรรยากาศมากครับ ณ บริเวณนี้เอง จะเห็นได้ว่ามีผู้มาสักการะพระธาตุศรีสองรักกันอย่างต่อเนื่องครับ ทั้งเด็กผู้ใหญ่ วัยรุ่น ผู้เฒ่า เห็นแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

หากใครที่ต้องการทราบข้อมูลประวัติการสร้างพระธาตุศรีสองรัก อย่างละเอียด ก็สามารถหาดูได้ครับถูกบันทึกไว้บน "ศิลาจารึกพระธาตุศรีสองรัก" (หลักเก่า) บริเวณวัดพระธาตุศรีสองรัก โดยเป็นศิลาจารึกรูปใบโพธิ์ บันทึกประวัติโดยย่อของพระธาตุศรีสองรัก ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้

ส่วนงานวันเพ็ญวิสาขบูชา (งานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก) ที่จัดทุกๆปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย โดยชาวบ้านจะพร้อมใจกันนำ“ต้นผึ้ง” หรือ “ต้นดอกเผิ่ง” (ในภาษาอีสาน) ทำจากโครงไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยมหรือทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย "ดอกผึ้ง" ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตกแต่งเป็นต้นผึ้งมีดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ติดตรงกลางแทนเกสรดอกไม้ แล้วจึงนำมาบูชาถวายแด่องค์พระธาตุ ซึ่งแต่ละปีจะมีชาวด่านซ้ายและชาวเลยมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ใครที่มาขอพรองค์พระธาตุแล้วบนด้วยต้นผึ้ง ก็มักจะสมหวัง





การเดินทาง

วัดพระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร สังเกตป้ายครับมีบอกไว้ในจุดเลี้ยวสำคัญ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย

 ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย ไทยพลัสนิวส์ 10 อาหารที่กินแล้วทำให้ แก่วัย เรื่องของอาหารการกิน ยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อร...